สวัสดีค่า
เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน ออนได้ไปทดลองกับโปรแกรม “Ultra Deep Layer”
กับนิติพลคลินิกมาค่ะ ซึ่งโปรแกรมนี้ทางคลินิกบอกว่าเหมาะกับคนที่
“ทำงานหนัก เจอมลภาวะเยอะ ขาดการดูแลตัวเอง ผิวหน้าโทรม
ผิวดูหมองคล้ำไม่สดใส ผิวแห้งเป็นขุย มีปัญหาจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
มีริ้วรอย”
ซึ่งก่อนหน้าที่จะทำโปรแกรมนี้ แน่นอนว่าต้องมีการพบแพทย์เพื่อปรึกษา
รวมถึงรับคำแนะนำว่าเราควรต้องทำโปรแกรมอะไรที่จะตอบโจทย์กับ
ความต้องการและปัญหาผิวของเรา
หลังจากที่ได้คุยกับคุณหมอแล้ว รวมถึงให้คุณหมอวิเคราะห์ผิวใกล้ๆ
คุณหมอได้แนะนำให้ทำโปรแกรม “Ultra Deep Layer” ค่ะ เพราะว่าเหมาะสำหรับออน
ที่ทำงานหนัก ต้องแต่งหน้าทุกวัน เจอมลภาวะต่างๆ บางครั้งรู้สึกว่าผิวหน้า
ดูไม่สดใส ดูเหนื่อย ดูล้า แถมในโปรแกรมนี้ยังมี Eye Fresh ที่เป็นการดูแล
ผิวรอบดวงตาของเราควบคู่กันไปด้วย ดังนั้นออนคิดว่าเหมาะมากค่ะ
เพราะได้ดูแลทั้งผิวหน้า และผิวรอบดวงตาไปด้วยกันเลย
Ultra Deep Layer คืออะไร?
Ultra Deep Layer คือทรีทเมนท์ระดับ Premium ด้วยหลักการ
Electroporation ที่ทำให้เกิดช่องว่างเล็กๆที่ผนังเซลล์ จึงสามารถส่งสารหรือยา
ที่เราต้องการเข้าสู่ผิวเราผ่านช่องที่เปิดนี้ได้ จากนั้นผนังเซลล์ก็จะ
กลับคืนสู่สภาพปกติ ในโปรแกรมนี้ได้ผสานรวมเทคโนโลยีอย่าง
Golden Spoon, Biostick และ Superphono ที่สามารถผลักวิตามินให้ซึมลึก
ถึงเซลล์ผิวได้ถึง 10 ซม. ร่วมกับประสิทธิภาพจากเวชสำอางระดับ
Premium จากนิติพลคลินิก ซึ่งผลลัพธุ์ที่ได้คือผิวตึงกระชับ ผิวยืดหยุ่น
ลดรอยหมองคล้ำ ฝ้า กระ ริ้วรอยแห่งวัยลดเลือน สีผิวสว่างขึ้น
ดูสุขภาพดี
ควรทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
ควรทำให้ครบคอร์สคือจำนวน 5 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจน
ทั้งนี้ทั้งนั้นโปรแกรมทรีทเมนท์เป็นส่วนเสริมในการดูแลผิวหน้าของเรา
และแน่นอนว่าการดูแลผิวหน้าด้วยวิธีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าให้สะอาด
ทาครีมบำรุงสม่ำเสมอก็เป็นปัจจัยสำคัญค่ะ
ก่อนทำทรีทเมนท์ก็จะต้องเช็ดทำความสะอาดหน้าก่อน
โดยเริ่มจากการ Detox Cleanser ที่จะทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน โดยสะอาด
กว่าการใช้ Cleansing ทั่วไป พร้อมช่วย Detox ผิวไปในตัว
ให้ผิวสะอาด สดชื่น เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของนิติพลคลินิกด้วยค่ะ
หลังจากที่ผิวหน้าของเราสะอาด และพร้อมรับทรีทเมนท์แล้ว
ก็จะเป็นในส่วนของขั้นตอน Golden Spoon ที่จะช่วยผลักวิตามินให้ซึมลึกสู่ผิว
ซึ่ง Golden Spoon สามารถทำงานได้ดีกว่า Ionto ถึง 40 เท่า
และยังช่วยระบบไหลเวียนผิวหนัง ช่วยให้ผิวเนียน ใส สุขภาพดีค่ะ
ในขั้นตอนนี้จะเย็นสบายผิว ซึ่งจะไม่มีการใช้ความร้อน
ดังนั้นสบายมาก ไม่ต้องกลัวร้อน ไม่ต้องกลัวเจ็บค่ะ อารมณ์เหมือนคนเอา
ช้อนเย็นๆมานวดหน้า
หลังจากนั้นก็จะมาถึงขั้นตอนการทำ Bio Stick และ Superphono ค่ะ
ซึ่งจะเป็นขั้นตอนที่ใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่สูงพิเศษทำหน้าที่เป็นตัวกลาง
ในการขับตัวยาเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างลึกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วย
กระตุ้นการไหลเวียนของระบบหลอดเลือด และน้ำเหลืองอีกด้วย
สำหรับขั้นตอนนี้จะคล้ายๆกับคนเอามือถือมาวางบนหน้าและเปิดระบบสั่น
คลื่นเสียงที่พูดถึงไม่ทำให้เจ็บ แสบ หรือร้อนเลยค่ะ แค่สั่นบนหน้าเบาๆ
คล้ายๆกับการกระตุ้นผิวเรา ดังนั้นไม่มีอะไรน่ากลัวค่ะ
เพราะออนลองมาแล้วกับตัวเอง
ซึ่งในโปรแกรมนี้ยังมีเวชสำอางเด่นๆที่ใช้หลายตัว
1. Kojic Acid – สารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวขาว ป้องกันอนุมูลอิสระ
และยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยลดความหมองคล้ำ
และจุดด่างดำอันเนื่องมาจากแสงแดด ลดปัญหาผิวลาย สีผิวไม่สม่ำเสมอ
เช่นฝ้า กระ
2. Vitamin C Palmitate – มีฤทธิ์ต่อต้าน Tyrosinase Enzyme
สาเหตุของการเกิดฝ้า ลดการทำงานของเม็ดสีเมลานิน
นอกจากนี้ยังมีตัวยาระดับ Nano technology อีกหลายตัวที่ช่วยในเรื่อง
การชะลอริ้วรอบ และคงความอ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณ
หลังจากดูแลผิวหน้าแล้ว ก็ห้ามละเลยการดูแลผิวรอบดวงตานะคะ
เพราะผิวรอบดวงตาของเราอ่อนโยนมาก และผู้หญิงเดี๋ยวนี้แต่งหน้า
ทาอายแชโดว์ เขียนอายไลเนอร์ ไหนจะต้องลบทำความสะอาดอีก
ถ้าหากดูแลไม่ดี ผิวรอบดวงตาอาจเหี่ยว หย่อนคล้อย
ดูไม่สดใสได้ค่ะ
ดังนั้นในขั้นตอนนี้ก็จะเป็นขั้นตอนของ Hyaluronic Mask ซึ่งเป็น
มาส์กที่เก็บกักความชุ่มชื่นให้ผิวเรา โดยเจ้าหน้าที่จะทิ้งมาส์กไว้ประมาณ
15 นาที เย็นสบายมาก ผ่อนคลายสุดๆ เหมือนดวงตาเราได้พักผ่อนเลย
ปิดท้ายด้วย Eye Refreshment ที่จะใช้เครื่องมือเหล็กเป็นหัวกลมๆ
ที่จะช่วยผลักวิตามินเข้าสู่ผิวรอบดวงตาของเราอย่างอ่อนโยน โดยจะเน้น
เป็นการส่งคลื่นพลังงานระหว่างการทำค่ะ
สำหรับขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณข้างละ 5 นาทีค่ะ
บอกเลยว่าสบายม๊ากกกก เย็นสบาย รู้สึกเลยว่าผิวรอบดวงตาของเราได้พัก
และได้รับการดูแลที่ดีค่ะ
เสร็จแล้วววว..หน้าสดหลังทำโปรแกรม Ultra Deep Layer
แบบไม่พึ่ง App ไม่ใช้กล้องฟรุ้งฟริ้ง สิ่งที่รู้สึกและเห็นได้เลยคือผิวออนจะดู
สดใส เด้งๆ หน้านิ่มๆนุ่มๆหยุ่นๆ ผิวดูตื่นสุดๆ ดูไม่ล้า ไม่โทรม
และสำหรับผิวใต้ตา ผิวดูสดใสขึ้น ความบวมดูลดลง
สำหรับออน..การทำทรีทเมนท์ออนไม่เคยคาดหวังว่าจะต้องเห็นผลทันที
100% หลังทำ เพราะการทำทรีทเมนท์สำหรับออนคือตัวช่วยเสริม ที่เราทำเพิ่ม
เติมขึ้นมาเท่านั้น ถ้าหากเราไม่ดูแลตัวเอง ไม่ทาครีมบำรุง ไม่ล้างหน้าให้สะอาด
จนผิวเรามีปัญหาผิวพัง ต่อให้ทำยังไงก็ต้องใช้เวลา และไม่มีอะไรสามารถ
กู้ผิวเราให้กลับมาภายในข้ามคืนค่ะ
ดังนั้นถ้าหากเราขยันดูแลตัวเองอยู่แล้ว และหาตัวช่วยเสริมเป็นตัวช่วยเสริม
ก็ถือเป็นไอเดียที่ดีค่ะ เพราะออนทำแบบนี้ตลอด และในระยะยาวเห็นผล
ที่ชัดเจนมากว่าผิวเราสวย สุขภาพดี จนใครเห็นใครก็ทัก
และสำหรับสาวๆที่อยากดูแบบ VDO
พร้อมดูขั้นตอนการทำแบบละเอียด คลิกดุได้เลยค่ะ
httpv://www.youtube.com/watch?v=OYgQbpTcRu0
ยังไงวันนี้จบกันไปก่อนนะคะ
เจอกันใหม่ค่า
สวัสดีค่ะ