สวัสดีค่ะ
มาถึงวันที่ 2 ของ Singapore Trip ของออนแล้วนะคะ ใครที่ยังไม่ได้อ่าน
จากวันแรก สามารถคลิกอ่านได้ที่นี่ค่ะ (Singapore Trip Day 1) สำหรับวันที่ 2
แพลนของออนกับพี่สาวคือไป Universal Studio Singapore นั่นเอง
Hiiiiii
Singapore Trip Day 2 is here.
Me and my cousin will rock the USS today. Wooohooooo
การเดินทางค่อนข้างสะดวกมาก เพราะว่าออนพักที่ V Lavender
ซึ่งติดกับสถานีรถไฟใต้ดินพอดี ออนก็นั่งรถไฟใต้ดินไปจนสุดสายที่สถานี Harbour Front
หลังจากนั้นก็จะมีป้ายเดินตามไปที่ Sentosa Express Vivocity หาง่ายมากค่ะ จะมีป้าย
บอกตลอด และจะสังเกตุได้ว่าคนจะเดินไปกันเยอะมาก เมื่อมาถึงหน้า Counter
ต้องซื้อตั๋วเพิ่มอีกนิด ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ที่ $3 หรือประมาณ 75 บาทต่อคน
เมื่อซื้อบัตรเสร็จ เราก็ต่อคิว จนซักพักจะมีรถไฟมารับเพื่อเดินทางไป USS
รถที่มารับจะเป็นรถไฟฟ้าวิ่งบนราง ซึ่งจะเชื่อมระหว่างตัวเมืองสิงคโปร์กับเกาะ Sentosa
As we stayed at V Lavender , the transportation was pretty
easy for us. We can just take the purple train to Harbour Front station
then followed the sign to “Sentosa Express Vivocity”
There’s a sign everywhere, so you don’t have to worry about
getting lost. The ticket is around $3.
ทางบริษัทที่ออนจองแพ๊คเกจห้องพัก กับซื้อตั๋ว USS ให้ ได้ส่งโบรชัวร์รายละเอียด
มาให้เลย พกมาด้วยเรียบร้อย เพื่อความชัวร์ จะได้ไม่หลง เพราะในโบรชัวร์มีแผนที่และ
รายละเอียดเครื่องเล่นต่างๆบอกไว้หมด
We are more than readyyy!
มาถึง USS เรียบร้อยแล้ว ทุกคนต้องถ่ายรูปกับตรงนี้จริงๆ
ตอนแรกออนกับพี่สาวนึกว่าตายแน่ๆ เพราะมาวันตรุษจีนพอดี (หรือวันอะไรซักอย่างที่
เป็นวันไหว้ของจีน) คิดว่าคนต้องเยอะ ล้นทะลัก รอเครื่องเล่นเป็นชั่วโมง แต่ปรากฏว่า
พอเป็นวันแบบนี้ ทุกคนเลยอยู่บ้านกับครอบครัวกันหมด ทำให้คนน้อยมาก มีแต่นักท่องเที่ยว
ที่มา เลยสบายเลย คนไม่เยอะ สบายๆ
Here comes the USS.
It was such a good day here, pretty much no people because
it’s a Chinese New Year day. All the rides were about 15-20 minutes wait
and that’s ridiculous (you know normally it could take up to an hour
or more)
ออนเดินไปตามทางจากด้านซ้ายแล้วค่อยๆวนไปขวา ส่วนมากเครื่องเล่น
หรืออะไรต่างๆ รอแค่ 10-15 นาทีเอง โชคดีมากๆ ที่เลือกมาวันนี้
Some picture with the globe!
ออนเล่นเครื่องเล่น และเข้าไปดูโชว์ต่างๆเกือบหมด เพราะช่วงที่ออนไป
มีเครื่องเล่นใหม่เปิดขึ้นเยอะเลย แต่ที่ชอบที่สุดคือ Transformer เป็น
อะไรที่สนุกมาก คุ้มมาก ต่อแถวครึ่งชั่วโมง (นานกว่าเครื่องเล่นอื่นๆ) แต่ว่า
คุ้มจริงๆ เหมือนกับว่าเราหลุดเข้าไปนั่งในรถอะไรซักอย่าง ที่ต้องซิกแซก
ขึ้นลง เหาะ ไปตามตึก ตกตึก เจอระเบิด ฯลฯ และความรู้สึกคือเหมือนจริงๆ
I went to almost every rides I could and Transformer is my
most fav one. It’s just so fun and exciting.
พวกรถไฟเหาะออนก็ขึ้น แต่ไม่ได้ขึ้นอันที่มันสูงมากๆ หรืออันที่ตีลังกา
อันนั้นไม่ไหวจริงๆ ขอไม่ขึ้น เพราะกลัวความสูง(มากๆ) กลัวอะไรที่กลับหัว
เพราะเคยไปเล่นที่ Everland ที่เกาหลีมาแล้ว ถึงกับช็อกเบาๆในใจ กับความสูง
และความเร็ว
We are ready to go on a ride.
3 2 1 .. go!
ใน USS ก็จะมีอาหาร ขนม น้ำขายตลอดทาง เรียกว่าอิ่มท้องกันตลอดเลย
ที่สำคัญมีร้านขายของที่ระลึก ของฝากเยอะมากๆ สถานที่สะอาด เหมาะกับการถ่ายรูป
แต่ว่าเครื่องเล่นก็ยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับ Everland ที่เกาหลี
I love how there’s lots of food and drink trolleys that
I can stop by and enjoy my meals during the time spent at the USS.
จริงๆลืมเล่าว่าออนออกจากที่โรงแรมประมาณ 10 โมงเช้าใช้เวลารวม
ทั้งหมดประมาณเกือบๆชั่วโมงก็ถึงที่ USS และพอถึง USS ออนก็ใช้เวลาเล่น
เครื่องเล่น กินข้าว กินขนมจนถึงประมาณ 4 โมงเย็น ก่อนที่จะกลับออกมา
I spent more than half of my day here
and left the USS around 4pm
ใครที่มาแนะนำให้พกกระเป๋าสะพายใบเล็กๆมา หรือกระเป๋าที่สายยาวๆ
จะได้สะพายคาดตัวได้ จะปลอดภัยและสะดวกกว่าถือพวกกระเป๋าถือ สำหรับเครื่องเล่น
บางเครื่องเล่น จะมีล็อกเกอร์ให้เก็บของเลย เพราะอาจจะต้องมีการดิ่งตัวของเครื่องเล่น
หรือเปียกน้ำ ฯลฯ
Most of the rides have lockers to keep your belongings,
so dont worry about your stuff. They are safe in the lockers
with fingerprint-scanning system.
บรรยากาศที่นี่ดี จนทำให้ออนลืมไปเลยว่ายังอยู่สิงคโปร์ หรือยังอยู่ประเทศ
แถบเอเซียใกล้ๆบ้านเรา อารมณ์การตกแต่งเหมือนอยู่แถบอเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว
I love the atmosphere here, so different from Thailand.
Way cooler than Thailand that I can walk around all day
without sweating.
ก่อนจะกลับก็แวะซื้อของฝากเต็มไปหมด ออนซื้อตุ๊กตาหมีไปฝากเพื่อน ซื้อสร้อยคอ
เป็นตัวอักษร “S” ย่อมาจากชื่อจริงของออน ซื้อแปรงหวีผม Betty Boobs ที่มีขนมิ้ง
ซื้อแก้วกาแฟ Betty Boobs ฝากคุณแม่ เพราะคุณแม่บอกตั้งแต่เด็กๆว่าออนหน้าเหมือน
Betty Boobs มาก ตาโตๆโปนๆ หน้ากลมๆ ฮ่าๆ
Some souvenir shopping session before leaving the USS
หลังจากนั้นก็จะขึ้นรถไฟฟ้ากลับ แต่ว่าคิวยาวมากจนไม่ไหวจริงๆ ออนเลยไปขึ้น
รถบัสของ Sentosa กลับ ซึ่งการที่จะขึ้นรถบัสจะต้องมี Passport และใบขาวๆหรืออะไร
ซักอย่างอีกใบ เหมือนใบขาเข้าประเทศที่ติดมาใน Passport และจะขึ้นฟรี ซึ่งรถบัสมีไม่กี่สาย
และจะไปสั่งตามจุดสำคัญต่างๆ ส่วนมากจะเป็นโรงแรม ออนเลยขึ้นรถบัสที่ไปส่งที่
Marina Bay Sands เพราะออนต้องการไปที่ Maison Island ต่อ
Our next destination is Maison Island..yayyy!
เนื่องจากพี่สาวออน อยากไปดูการตกแต่งและดีไซน์ต่างๆของ Louis Vuitton ที่
เพิ่งเปิดตัวที่ Maison Island คือเป็นอาคารคริสตัล ตั้งอยู่กลางน้ำเลย ซึ่งออนเข้ามาจาก
ในตัวของ Marina Bay Sands ก็จะเจอคล้ายๆกับร้านหนังสือ และเป็นทางเดินเชื่อมเข้าไปจน
ถึงอุโมงค์ใต้น้ำ และในที่สุดก็มาถึงที่ร้านด้านในตกแต่งได้เรียบ แต่ดูดีมาก ถ้าจำไม่ผิดจะมี
ทั้งหมด 2 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปดูของต่างๆ หรือนั่งพักก็ได้
My cousin wanted to take a look at LV’s new architecture designs
at the island. So we are here!
หรือใครเบื่อๆ สามารถเดินออกมาชมวิวด้านนอกก็ได้ค่ะ จะเห็นวิวสวยๆแบบนี้เลย
จริงๆด้านนอกน่าจะทำเป็นเหมือน Coffee Shop หรือ Cafe เล็กๆ ให้ทานน้ำชา หรือเบเกอรี่
น่าจะเหมาะน่าดู ดูวิวสวยๆในร้าน ดูวิวสวยๆนอกร้าน และมีขนมอร่อยๆ
Breathing Singapore fresh air
หลังจากนั้นออนก็ไปเดินเล่นแถวๆ Clark Quay แหล่งที่รวมร้านอาหารแนวชิลๆ
หรือผับ บาร์ไว้เยอะมาก แต่เนื่องจากวันนั้นเป็นวันไหว้ หรือวันตรุษจีน เลยทำให้ร้าน
หลายๆร้านปิด ที่สำคัญฝนตกอีกด้วย คนเลยน้อย
And it’s time for the fun at Clark Quay, where all the restaurants,
bars and night clubs are located.
ออนกับพี่สาว จะไปเจอเพื่อนอีกสองคนที่นั่น เลยเลือกไปร้าน Helipad เป็น
ร้าน Rooftop มีเก้าอี้ให้นั่งชิลๆ เพื่อมองดูวิว Clark Quay ซึ่งร้านนี้จะอยู่ตรง
The Central, Eu Tong Sen Street พอมาถึงแล้วต้องขึ้นลิฟท์ และขึ้นบันไดมาอีก
นิดหน่อย ก็จะถึงค่ะ
We came to Helipad for some drinks and enjoy our girls talk.
เนื่องจากวันนั้นไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เลยสั่งแต่ Cocktail มาดื่ม ออนสั่ง Midori Sour ไป
เป็นหนึ่งใน Cocktail สุดโปรดของออนที่ออนสั่งเกือบทุกครั้ง สังเกตุด้านหลังจะเห็นว่า
เป็นวิวของทางฝั่ง Clark Quay หมดเลย ออนนั่งที่นั่นกับพี่ๆไม่นาน ฝนก็ตกปรอยๆ
เลยตัดสินใจไปนั่งร้านชิลตรงฝั่ง Clark Quay ต่อ และค่อยนั่งแท็กซี่กลับโรงแรม
Me with my fav cocktail, Midori Sour.
and my Day 2 has now ended. Please read my Day 1 trip and be
sure to check out my Day 3 trip as well.
Disclaimer : This is a non-sponsored post. All opinions are my own.
วันนี้ก็จบไปเรียบร้อยนะคะสำหรับ Singapore Trip Day 2 ของออน
ติดตามอ่านตอนอื่นๆได้ที่นี่ค่ะ
Singapore Trip Day 1
Singapore Trip Day 3
ขอบคุณค่ะ
แล้วเจอกันใหม่นะคะ