สวัสดีค่าาาา
ต้นเดือนที่ผ่านมา ออนไปเที่ยวพัทยามา
เพราะว่าต้องไปงานแต่งงานเพื่อนสนิทของออนนั่นเอง แถมงานนี้
ออนต้องไปทั้งงานเช้าและงานเย็น เพราะเป็นเพื่อนเจ้าสาวแถมเป็น EmCee ควบ
ดังนั้นไปพัทยารอบนี้ ก็จะนอน 2 คืนกันไปเลย
เอาให้เต็มที่ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องรีบ ซึ่งโรงแรมที่ออนเลือกพักในครั้งนี้ก็คือ
Holiday Inn Pattaya นั่นเองค่ะ อยู่กลางเมือง ติดทะเล เดินทางสะดวก
แถมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันจนไม่ต้องออกจากโรงแรมก็ยังได้
ห้อง King Pattaya Bay View (ตึก Bay Tower)
คือห้องที่ออนพักในครั้งนี้ค่ะ โดยจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ห้องของชั้นนั้นๆที่เห็นวิว
อ่าวพัทยาแบบชัดๆแบบนี้เลย ที่สำคัญภายในห้องกว้างขวาง แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า ชั้นวางกระเป๋า ห้องน้ำ โต๊ะทำงาน โซฟานั่งเล่น เตียงนอน
รวมถึงระเบียงที่ให้ออกไปชมวิวได้สวยๆ
มองออกมาจากระเบียง
วิวแบบนี้เลย สวยมากกกกกกก ออนชอบวิวทะเล ชอบเห็นน้ำทะเลสีฟ้าๆ
และชอบสีฟ้า Aqua ดังนั้นทุกอย่างที่เป็นทะเล ออนชอบหมด เลิฟหมด
อีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เลย เป็นจุดที่ต้อง Check-in รัวๆ
ก็คือ “ห้องน้ำ” เลยค่ะ เพราะภายในห้องตกแต่งด้วยหินอ่อน โทนสีขาว-ครีมสะอาดตา
แถมมี Bathtub และ Shower แยกกัน พร้อมกระจกให้มองวิวทะเลเก๋ๆ
นอกจากนี้มีอ่างล้างหน้าแยก 2 อ่าง พร้อมที่วางกระเป๋า เครื่องสำอาง สกินแคร์
อย่างสบายๆ แบบไม่ต้องแย่งกันเลย
ดังนั้นใครมาพักห้องนี้ ก็ขนมาเลยอย่าได้แคร์ค่ะ
ทั้ง Bubble bath หรือจะ bath bomb เอามาแช่เล่น ตีฟอง ถ่ายรูปเก๋ๆแบบนี้
บอกเลยว่า Instagram Worthy มากกกกก!!
ย้ายมาอีกตึก Executive Tower กันบ้าง
ตึกนี้จะถัดเข้ามาจากตึก Bay Tower ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Executive Club
ซึ่งความพิเศษของ Executive Club ก็คือ
– บริการ Check-in และ Check-out แบบส่วนตัว
– บริการอาหารเช้าตั้งแต่ 06.00 – 10.30 (ซึ่งอาหารเช้าจะไม่เยอะเท่าห้องอาหารปกตินะคะ แต่ถ้าต้องการความสงบ
ความเป็นส่วนตัว หรือไม่มีเด็กๆ ก็แนะนำค่ะ)
– บริการของว่าง จำพวกชา กา แฟ รวมถึงคุ๊กกี้ต่างๆทั้งวัน
– มีบริการของว่าง จำพวก Canape และเครื่องดื่มช่วง 18.00 – 20.00
– บริการ Wifi
ดังนั้นที่นี่จึงเหมาะมากสำหรับการมาคุยงาน ทำงานแบบเงียบๆสงบๆ
แต่มีแอร์เย็น แถมมีของกินจุบจิบบริการด้วย ซึ่งที่นี่จะมีโซน Indoor และ Outdoor
ให้ออกไปนั่ง แต่ว่ามาทะเลทั้งที..ออนก็ต้องไปนั่งด้านนอกเนอะ รับลมทะเล
สูดอากาศกันหน่อย ดังนั้นเลยตักอาหาร และไปนั่งด้านนอก ถ่ายรูปเก๋ๆ
ที่สำคัญด้านนอกโซน Outdoor ตรงนี้จะมีบาร์ด้วยค่ะ เป็น Rooftop
ที่มองเห็นวิวอ่าวพัทยาทั้งอ่าวเลย ดังนั้นสามารถแวะมาสั่ง Drinks พร้อมฟังเพลงได้เลย
ช่วงกลางคืน บรรยากาศดี ลมเย็น ไม่ร้อน ยุงไม่กัดค่ะ
ปิดท้ายทริปนี้แบบฟินเฟ่อเว่อร์วังไปกับการทำสปาที่ Tea Tree Spa
ที่ Holiday Inn Pattaya นั่นเอง โดยโปรแกรมที่ออนจะทำในครั้งนี้คือ
“Tea Tree Signature Experience” โดยเป็น Signature Course
ของที่นี่เลย ใช้เวลาทำ 150 นาที ในราคา 3,500 บาท
โอยยยยย ชอบการทำสปาอะไรนานๆแบบนี้
ออนไม่ใช่คนที่ชอบสระผม ทำผมนานๆนะ จะนั่งนิ่งๆไม่ได้ แต่พอเป็นการนวด
การทำสปาเท่านั้นแหละ 3-4 ชั่วโมง ก็ไหว สบายๆ เรียกว่าช่วงเวลาสวรรค์เลย
คอร์สนี้จะมีการสครับตัว ต่อด้วยการนวดด้วยหินร้อน เสร็จแล้วจะเป็นการนวดหน้า
แต่ถ้าคนที่ไม่สะดวกนวดหน้า อาจขอเปลี่ยนเป็นนวดเท้าแบบออนได้ค่ะ
เอาเป็นว่า Review วันนี้จบกันไปเท่านี้นะคะ
ถ้าหากใครอยากไปพักที่ Holiday Inn แบบสวยๆเก๋ๆ แนะนำห้อง
King Pattaya Bay View แบบที่ออนพักเลยค่ะ ที่สำคัญในโรงแรมยังมีสระว่ายน้ำ
ถึง 2 สระ มีห้องอาหาร 2 ห้อง (ไม่รวม Executive Club) นอกจากนี้ก็ยังมีห้อง
Fitness โซนสำหรับเด็กเล่น ครบทุกส่วน เรียกว่าตอบโจทย์ทั้งกลุ่มครอบครัวที่มีลูกน้อย
หรือกลุ่มนักธุรกิจ ที่อยากมาพักผ่อน พร้อมคุยงานไปในตัว
ปล. สำหรับห้องที่ออนพัก ราคาคืนละ 8,500 บาทนะคะ
(ทั้งนี้เรทราคาเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับช่วงวันและเวลาค่า ยังไงลองเช็คได้เลย)
เจอกันใหม่ค่า
สวัสดีค่า
Disclaimer : ทาง Holiday Inn ได้ให้เกียรติออนเข้าไปพักในครั้งนี้นะคะ
และออนต้องขอขอบคุณมากๆที่นึกถึงออน แถมยังบริการ ดูแลออนดีสุด แต่จะบอกว่า
ส่วนตัวออนเคยพัก Holiday Inn และโรงแรมในเครืออยู่แล้วกับที่บ้าน ซึ่งก็ดูแลดีมาก
เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ Blog และ VDO ที่ทำในครั้งนี้ ไม่ได้มีการว่าจ้างใดๆนะคะ
ออนอยากทำ และตั้งใจทำเพื่อแชร์ประสบการณ์ค่า