สวัสดีค่าสาวๆทุกคน
วันนี้ที่ไทยคือวันแห่งความรัก หรือวัน Valentine’s Day นั่นเอง
แต่ของออนที่อเมริกายังเป็นวันที่ 13 อยู่เลย ดังนั้นวันนี้ออนยังไม่ได้ทำอะไร
นอกจากกินข้าว ไปดูหนัง ซื้อของนิดหน่อย และกลับมาบ้าน เลยมาทำ Review ให้
อ่านกัน เพราะพึ่งนึกขึ้นได้ว่า …. ตั้งแต่เปิดตัวแบรนด์ผลิตภัณฑ์ Flawless Me by Onnbaby
มาจะครบ 3 เดือน ยังไม่ได้ทำ Review เลย จนมีพี่ๆน้องๆ Blogger รวมถึงลูกค้าหลาย
ท่านทำ Review ให้กันหมดแล้ว แต่เจ้าของแบรนด์เองกลับยังไม่ได้ทำ
วันนี้เลยตั้งใจจะมาเขียนให้อ่านกัน โดยไม่ได้จะมาบอกว่า “แบรนด์ของออนดีที่สุด
หรือแบรนด์ของออนดีกว่าแบรนด์อื่น” แต่สิ่งที่ตั้งใจวันนี้คือ “แบรนด์ของออนมีอะไรบ้าง และ
เพราะอะไรสิ่งเหล่านี้ถึงจำเป็นในการบำรุงผิว” รวมถึงเล่าความเป็นมาคร่าวๆให้ฟังกัน
เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครที่กำลังทำตามฝัน ได้ทำตามฝันของตัวเองสำเร็จค่ะ
Flawless Me by Onnbaby
– Flawless Me Vanilla Mousse Sunscreen SPF50 PA+++ (ขนาด 30 กรัม ราคา 490 บาท)
– Flawless Me Aqua Splash Aloe Vera Moisturizing Gel (ขนาด 30 กรัม ราคา 699 บาท)
นี่คือผลิตภัณฑ์ Flawless Me ของออนทั้ง 2 ตัวค่ะ ตั้งแต่เด็กๆออนชอบแต่งหน้า
ชอบทาแป้ง พอโตขึ้นมาเรื่อยๆ ก็เริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น เพราะอยากสวย ออนเริ่มบำรุงผิว
ตัวเองตั้งแต่อายุ 12-13 โดยที่คุณแม่จะเป็นคนซื้อผลิตภัณฑ์มาให้ ไม่ว่าจะเป็นโฟมล้างหน้า
ม๊อยเจอไรเซอร์ กันแดด หรือแป้งฝุ่น พอยิ่งโตขึ้น ก็ลองใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้นหลายอย่าง ทำให้
เริ่มรู้ว่าตัวเองชอบแบบไหน และผลิตภัณฑ์แบบไหนเหมาะกับอากาศในประเทศไทย ที่ร้อนๆชื้นๆ
ตั้งแต่เด็กๆ ออนอยากมีร้านขายเครื่องสำอาง ขายเสื้อผ้าของตัวเอง อารมณ์เหมือน Beauty Shop
เล็กๆที่รวมเครื่องสำอาง เสื้อผ้า ทำเล็บ ทำผม ร้านนวดไว้ด้วยกัน จนกระทั่งตอนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3
ก็เริ่มคิดอยากจะทำแบรนด์ของตัวเองจริงจัง แต่คุณแม่อยากให้เรียนจบก่อน เพราะกลัวจะยุ่ง
และทำให้เวลาชนกัน โดยเฉพาะช่วงปี 4 ซึ่งเป็นปีสุดท้าย ซึ่งพอออนเรียนจบปุ๊บ ก็ไม่ลังเลเลย
ออนใช้เงินเก็บส่วนตัวของออนในการเริ่มธุรกิจเล็กๆของตัวเอง และเป็นธุรกิจแรกที่ภูมิใจมาก
แทบจะทุกอย่าง ออนเป็นคนหาข้อมูล คุยงาน ตามงาน ติดตามผลต่างๆ หาคนออกแบบ
ผลิตภัณฑ์ หาข้อมูล คุยกับนักเคมี-เภสัชกร ทดลองใช้มากมายหลายขั้นตอนจนออกมามีวันนี้
ดังนั้นใครที่มีความฝัน ออนเชื่อว่าเราสามารถทำได้ เมื่อถึงเวลาทีใช่ จังหวะที่เหมาะ อย่าทิ้ง
ความฝันของตัวเอง แต่ตั้งใจ และทำให้สำเร็จค่ะ
Flawless Me Vanilla Mousse Sunscreen SPF50 PA+++
กันแดดเนื้อมูส ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่เริ่มทดลองและผลิตออกมา เนื่องจากประเทศ
ไทยเป็นประเทศที่อาการร้อนอบอ้าว บางทีก็ร้อนชื้น ทำให้ผู้หญิงไทยเราหลายๆคน
เจอปัญหาที่ว่าทากันแดดแล้วทำให้หน้ามันเยิ้ม หน้าหมอง ต้องเติมแป้ง เติมเครื่องสำอาง
บ่อยๆ หรือปัญหาการที่ผู้หญิงเราใช้ครีมกันแดด แล้วยังต้องทารองพื้น บีบี แป้งทับกัน
ทำให้หนักหน้า ดูหนาเตอะ และไม่เป็นธรรมชาติ ออนเลยลองคิดในสิ่งที่น่าจะถูกใจ
สาวๆหลายคนคือ
– กันแดดเนื้อมูส ที่ไม่ใช่เนื้อมูสแห้งๆ ทำให้เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่เป็นขุย
แม้คนผิวแห้ง ก็สามารถใช้ได้
– เนื้อกันแดดสีเนื้ออ่อนๆ เมื่อเกลี่ยแล้วจะกลืนไปกับสีผิวเรา ปรับผิวให้กระจ่างใส
ขึ้น แต่ไม่วอก สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว และสามารถใช้แทน make-up base ได้เลย
– ถ้าหากผิวไม่มีปัญหามาก สามารถทากันแดดตัวนี้เดี่ยวๆ (หรืออาจจะเก็บรายละเอียด
เฉพาะจุดด้วยคอนซีลเลอร์ เช่นรอบดวงตา หรือรอยสิวเล็กน้อย) แล้วตามด้วยแป้ง
ได้เลย โดยไม่ต้องใช้ BB Cream หรือรองพื้น ให้รู้สึกหนักหน้า
– เนื้อกันแดดมีส่วนผสมบำรุงของ Aloe Vera และ Centella ที่จะบำรุงผิวไปในตัว
ตลอดเวลา ให้ความชุ่มชื้น เติมน้ำให้กับผิว แถมยังลดการระคายเคืองจากอาการแพ้
และปลอบประโลมผิวจากความร้อม ผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย สามารถใช้ตัวนี้ได้ ปลอดภัย
หายห่วง (ผิวติดสเตียรอยด์ มีลูกค้าหลายคนที่ใช้แล้วไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ใดๆ)
– ถึงแม้จะให้ความชุ่มชื้นกับผิวภายใน แต่ประสิทธิภาพของกันแดดตัวนี้ ควบคุม
ความมันยาวนานตลอดวัน ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม สีไม่ดร็อป ไม่เปลี่ยนระหว่างวัน
คนผิวมันสามารถใช้ได้ ไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะมันเยิ้มแน่นอน
– เนื้อมูสหยุ่นๆ ทำให้เวลาลงเครื่องสำอาง หรือลงแป้งต่อแล้ว เครื่องสำอางยึดเกาะ
ติดทนบนผิวหนังมากขึ้น ลดปัญหาการเติมเครื่องสำอาง เติมแป้งบ่อยๆ
สำหรับออน กันแดดตัวนี้ออนใช้ทุกวันมาตั้งแต่ช่วงทดลอง ที่ยังไมไ่ด้ผลิต เพราะออน
ต้องทดสอบในคุณภาพต่างๆ รวมถึงประสิทธิภาพในการกันแดด ระยะเวลาที่ืทดลองใช้
อยู่ที่ประมาณ 6 เดือนแล้ว และออนได้หาหมอดูแลผิวหน้า เช็คฝ้า เช็คกระ ผิวหน้าออน
ไม่มีปัญหาในส่วนนี้เลย แสดงว่าประสิทธิภาพใช้ได้ ส่วนคุณแม่คือคนที่ผิวแพ้ง่ายมากๆ
ได้ทดลองใช้ตอนไปงานที่สนามกอล์ฟ ซึ่งต้องอยู่ข้างนอกร้อนๆ ตากแดดทั้งวัน ถ้าหาก
กันแดดตัวไหนที่ประสิทธิภาพไม่ดี กลับมาถึงบ้าน ผิวคุณแม่จะไหม้เลย แต่ตัวนี้กลับมา
ผิวคุณแม่ไม่เป็นไร คุณแม่บอกเอาอยู่ แถมระหว่างวัน คุณแม่ทาทับบนเครื่องสำอางอีก
และไม่เป็นคราบด้วย คุณแม่บอกว่าเริ่ดมาก (ก่อนที่จะทาทับ ควรซับความมันส่วนเกิน
สิ่งสกปรก และคราบเหงื่อไคลต่างๆออกก่อนนะคะ แล้วค่อยๆทาทับเบาๆ ทีละนิดๆ)
สังเกตุกันชัดๆเลยว่าเนื้อกันแดดของเราเป็นเนื้อมูสหยุ่นๆในตัว ไม่ใช่เนื้อมูสแบบ
แห้งๆ ทำให้เกลี่ยง่ายจริงๆ เพราะปัญหาที่ออนเคยเจอมาคือกันแดดเนื้อมูสแบบแห้ง
ซึ่งพอทาลงไปกับหน้า เกลี่ยแล้วทำให้หน้าเป็นขุย หรือดูแห้งเป็นแป้งๆ ลงเครื่องสำอางไม่ติด
เวลาเกลี่ย เนื้อจะเป็นแบบนี้ค่ะ สีจะเป็นสีเนื้ออ่อนๆ ดูเหมือนทาแล้วจะวอก แต่รับรองว่า
ไม่วอกแน่นอน เพราะสิ่งที่ออนต้องการคือกันแดดที่ช่วยปรับผิวหน้าให้ดูกระจ่างใสขึ้น
ผ่องขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ ไม่วอก ที่สำคัญต้องช่วยในการปกปิดอ่อนๆด้วย จะได้ไม่ต้อง
ทาเครื่องสำอางหลายอย่าง ทำให้หนักหน้าปล่าวๆ
เกลี่ยเสร็จแล้ว ลองสังเกตุได้ว่าผิวจะดูผ่องขึ้น เนียนขึ้น แต่ยังดูเป็นธรรมชาติ
ไม่ได้ดูหลอกตาจนเกินไป กันแดดของออนกันเหงื่อ ดังนั้นไม่ต้องห่วงระหว่างวัน
ว่าเหงื่อออกแล้วจะไม่สวย มีลูกค้าหลายคนบอกว่ายิ่งเหงื่อออก ยิ่งดูผ่องขึ้น แต่ตัวนี้
ไม่ได้กันน้ำ เพราะเป็นกันแดดที่ใช้ในชีวิตประจำวัน (ไม่ใช่กันแดดสำหรับลงว่ายน้ำ)
ดังนั้นจึงทำออกมาแบบไม่กันน้ำ ทำให้ล้างออกง่าย
ในรุปนี้ออนลงกันแดด ตามด้วยคอนซีลเลอร์ใต้ตา และแป้งเลย
โดยที่ไม่ใช้รองพื้น หรือ BB Cream ก็ได้ลุคผิวเนียนๆ ใสๆ สบายๆ ไม่หนักผิวแล้ว
มีหลายคนไม่กล้าใช้กันแดด หรือเข้าใจว่าการใช้กันแดดแล้วจะทำให้อุดตันผิวหน้า
และทำให้เป็นสิวนั้น จริงๆแล้วการใช้กันแดด “ไม่ได้ทำให้เกิดการอุดตัน ถ้าหากเราล้าง
หน้าออกอย่างสะอาดหมดจด แต่ถ้าหากล้างออกไม่หมด ไม่ว่าจะกันแดด หรือเครื่องสำอาง
ประเภทไหน ก็ทำให้เกิดการอุดตันกับผิวได้ทั้งนั้น”
ถ้าหากเราใช้กันแดด หรือแต่งหน้า เราต้องใช้ Cleansing ในการเช็ดเครื่องสำอาง
ออกก่อนนึงรอบ Cleansing เดี๋ยวนี้มีหลายแบบมากไม่ว่าจะเป็น Cleansing Water,
Cleansing Oil, Cleansing Liquid, Cleansing Milk ถ้าหากเครื่องสำอางไม่กันน้ำ
ไม่จำเป็นต้องใช้ Cleansing Oil แต่ถ้าใช้เครื่องสำอางกันน้ำ ต้องใช้ Cleansing Oil
นวดออกค่ะ หลังจากนั้นก็ใช้โฟมหรือเจลล้างหน้า ล้างออกเป็นขั้นที่ 2 ตามด้วยการ
เช็ดโทนเนอร์ เพื่อเตรียมพร้อมผิวกับการบำรุง และจบด้วยม๊อยเจอไรเซอร์
ล้างหน้าสะอาด ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าจะอุดตัน ที่สำคัญถ้าหากถ้าเราไม่ทากันแดด
ผิวหน้าเราโดนแดด โดนรังสี UVA/UVB ทุกวัน ฝ้า กระ มาหาแน่นอนค่ะ แถมถ้าหาก
เรามีฝ้า มีกระ ต้องไปเสียเงินเลเซอร์อีก เพราะครีมส่วนมากข่วยได้ในระดับเล็กๆ
นอกจากนี้ครีมกันแดดยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดที่เป็นตัวทำร้ายผิด ก่อให้เกิด
ริ้วรอยก่อนวัย รวมถึงปัญหาของผิวแห้งกร้านอีก ดังนั้นห้ามละเลยเด็ดขาดนะคะ
Flawless Me Aqua Splash Aloe Vera Moisturizing Gel
ตัวนี้คือตัวที่สองที่ออนคิดตั้งใจทำ และพัฒนาสูตรออกมา เนื่องจากออนเชื่อว่า
ผู้หญิงไทยหลายๆคนยังเข้าใจผิดกันอยู่ว่า ผิวมันไม่จำเป็นต้องทาครีมบำรึง หรือการที่
ทาครีมบำรุงจะทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น วันนี้ขอบอกเลยว่าเป็นความคิดที่เข้าใจผิดกันมากๆค่ะ
เพราะไม่ว่าจะผิวประเภทไหน ทุกผิวล้วนต้องการการบำรุง ยิ่งการที่เราละเลย ไม่บำรุงผิว
ทำให้ผิวมีปัญหาก่อนเวลาด้วยค่ะ ความชอบของออนคือการที่ทาม๊อยเจอไรเซอร์เข้าไป
แล้วผิวชุ่มชื้น ผิวนิ่มๆลื่นๆ แต่ไม่ทำให้ผิวมัน ซึ่งม๊อยเจอร์ตัวนี้ตอบโจทย์มากค่ะ
– ม๊อยเจอไรเซอร์ หรือครีมบำรุงผิวในรูปแบบของเนื้อเจล ทำให้ซึมลงผิวได้ง่ายขึ้น
กว่าเนื้อครีม ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทิ้งความมันไว้บนผิว
– เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยเติมน้ำและให้ความชุ่มชื่นกับผิวจากภายใน ไม่ว่า
จะเป็น Aloe Vera, Centella, Witch Hazel, Honey Extract หรือ Milk Protein
ที่ล้วนแต่บำรุงให้ความชุ่มชื้น ให้ผิวเนียนนุ่ม กระชับรูขุมขน และที่สำคัญอ่อนโยน
ต่อผิวมากๆ เพราะมีแต่ส่วนผสมจากธรรมชาติ คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้แน่นอน
– สรรพคุณหลักคือการบำรุงให้ความชุ่มชื้นกับผิวภายในแบบเต็มที่ เติมน้ำให้ผิว
เก็บกักน้ำใต้ชั้นผิว ลดการระคายเคืองของผิว ปลอบประโลมผิวจากความร้อน
ลดสิวผด กระชับรูขุมขน และช่วยให้ผิวหน้าสุขภาพดีจากภายใน
– มีลูกค้าหลายคนสงสัยว่าทำไมทาแล้วเนื้อเจลจะใช้เวลาซักพักถึงจะซึมลง
ผิวหมด เพราะว่าผลิตภัณฑ์ของเรา “ปราศจากแอลกอฮอลล์” ทำให้เวลาที่ทาไป
กับผิวนั้น เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่ได้ “ระเหย” ออกไป แต่ค่อยๆซึมลงผ่านชั้นผิวเข้าไป
บำรุงจริงๆ
– กลิ่นอาจจะคล้ายๆยา แต่จริงๆแล้วคือกลิ่นจากสารสกัดทั้งหมด เพราะว่า
ผลิตภัณฑ์ของเรา “ปราศจากน้ำหอม” ด้วย คนแพ้น้ำหอม คนแพ้แอลกอฮอลล์
สามารถใช้ได้ โดยไม่ต้องกังวล ที่สำคัญ “ปราศจากพาราเบน” อีกด้วยนะคะ
– ผู้ที่ผิวมัน หากใช้ไปซัก 2-4 อาทิตย์ จะรู้สึกว่าผิวมันน้อยลง แต่สิ่งที่รู้สึกคือ
ผิวที่เนียนๆ เต่งๆ และอิ่มน้ำ ปราศจากความมันส่วนเกินระหว่างวัน เพราะ
การที่เราบำรุงผิวอย่างถูกวิธีนั้น จะช่วยปรับสมดุลของผิวไม่ให้แห้งหรือมัน
– ลูกค้าหลายๆคนที่รู้สึกถึงความแตกต่างหลังจากใช้คือผิวหน้าสุขภาพดีขึ้น
ความมันน้อยลง ผิวดูเต่งๆ อิ่มน้ำ รูขุมขนกระชับขึ้น สิวผดลดน้อยลง และที่สำคัญ
เมื่อผิวเรามีความชุ่มชื้นอยู่ในตัว ก็ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น ทาแป้งติดทน
เรียกว่าไม่ต้องเติมเครื่องสำอางระหว่างวันเช้า-เย็นเลย
ด้วยความที่ออนเป็นผู้หญิง และเป็นผู้บริโภคมาก่อน ทำให้ออนเข้าใจในปัญหากับ
แพ๊คเกจจิ้งที่เคยเจอมา ไม่ว่าจะเล็บยาว แล้วต้องใช้นิ้วควักเข้าไป ทำให้ครีมสกปรก
เชื้อโรคเข้าไปสะสมในเนื้อครีม หรือความสดสะอาดของผลิตภัณฑ์หายไป เพราะปิด
ฝาไม่สนิท โดนลม โดนอากาศ โดนฝุ่นละออง สิ่งสกปรก หรือพวกขวดปั๊ม ที่สุดท้าย
เนื้อครีมเหลือทิ้งข้างในเต็มไปหมด เสียของ และเสียดายเงิน ดังนั้นออนจึงเลือกใช้
ขวดแบบสุญญากาศ ขวดแบบสุญญกาศจะดันเนื้อครีมออกมาทั้งหมด ไม่ทำให้เนื้อ
ครีมเหลือทิ้ง ที่สำคัญเก็บรักษาเนื้อครีมไว้ข้างใน โดยไม่โดนอากาศหรือสิ่งสกปรก
ใดๆ ทำให้รักษาคุณภาพเนื้อครีมไว้ได้ และสะดวกต่อการใช้งาน เพียงแค่กดฝาปั๊มเท่า
นั้น แถมยังมีฝาปิดให้อีก เพื่อป้องกันการที่มือเราจะไปกดโดนฝาปั๊ม ทำเนื้อผลิตภัณฑ์
เลอะเทอะ ในกรณีที่เราพกพาไปไหน คือไม่ต้องกลัวหก ไม่ต้องกลัวแตก ไม่ต้องกลัวสกปรก
พูดเลยยยย!!
ด้วยความชอบสีแนว Aqua เป็นหลัก เพราะรู้สึกว่าทำให้อยากใช้ อยากเอามาทาหน้า
และรู้สึกถึงความชุ่มชื้น เนื้อผลิตภัณฑ์จึงออกมาเป็นแบบนี้ ลองสังเกตุจะเห็นว่าเป็นเนื้อ
เจลหยุ่นๆ เด้งๆ ไม่ได้เหนียวหนึบ แต่ก็ไม่ได้เหลว
ลองทาไปบนผิว จะเห็นเป็นน้ำๆหยุ่นๆชุ่มๆ วิธีทาคือค่อยๆ ใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง
นวดเข้าผิวหน้าเบาๆ จนเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมเข้าไปหมด จะรู้สึกว่ามีอะไรเคลือบผิวอยู่บางๆ
ซักพักพอเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมเข้าผิวหมดแล้ว ก็จะเป็นแบบนี้เลยค่ะ ไม่ทิ้งความมัน
ไว้บนผิวเลย แต่บำรุงให้ความชุ่มชื้นลึกถึงชั้นในผิว
ม๊อยเจอไรเซอร์ตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้ง Day-Night เลย โดยที่เทคนิคการบำรุงผิวของ
ออนคือ ตอนกลางคืนออนจะทาเยอะกว่าประมารเท่านึง เพื่อให้ระหว่างนอนหลับ ผิวได้
รับการบำรุงเต็มที่ ที่สำคัญตื่นเช้ามา หน้าก็จะนิ่มๆ เด้งๆ หยุ่นๆ อิ่มน้ำเลย มีลูกค้าหลายคน
ที่นำไปใช้เป็น Sleeping Mask ด้วย และบอกว่าตื่นมาหน้านุ่ม ชุ่มมาก ผิวเด้งเลย
ม๊อยเจอร์ตัวนี้สามารถใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่น และตัวอื่นได้โดยไม่มีปัญหาค่ะ
หลักๆคือ 1. ใช้หลังเซรั่ม 2. ใช้ลงก่อนผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีม เผื่อใครสงสัยว่าจะลง
อะไรก่อน อะไรหลัง
วันนี้ก็จบกันไปเท่านี้นะคะ พึ่งรู้ว่า Review ของตัวเองยาวมาก ด้วยความที่รู้ข้อมูล
ทุกอย่างเองหมด อยากเขียน อยากอธิบายให้เข้าใจกัน เลยจัดซะยาวเลย
สอบถาม/สั่งซื้อ/ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line : Flawlessmethailand
Facebook : www.facebook.com/flawlessmethailand
Website : www.flawlessmethailand.com
Instagram : @flawlessmethailand
ฝากผลิตภัณฑ์คุณภาพของออน ที่ออนตั้งใจทำไว้ด้วยนะคะ
ในเว็บไซต์เราลงรายละเอียด สรรพคุณ วิธีใช้ รวมถึงเลข อย. ไว้ด้วยค่ะ
มั่นใจ ปลอดภัยแน่นอน
ขอบคุณค่า