สวัสดีค้าาาา
วันนี้กลับมาแล้วกับวันที่ 3 & 4 ของการไปเท่ียว New York เมื่อเดือนก่อนมา
หายไปนานมากกกก เพราะมัวแต่ขึ้เกียจ ดังนั้นใครอยากอ่านตอนก่อนหน้านี้ดูลิ้งค์ได้เลยค่า
New York Trip Day 1
New York Trip Day 2
เช้าวันที่ 3 ก็มาตามล่าภารกิจของพี่โต้ด้วยการกิน “pork bun” ที่พี่โต้โอดโอยอยากกินมานาน
เพราะว่าเห็นเพื่อนมากินตอนมาเที่ยวนิวยอร์ค เค้าว่ากันว่าร้าน Momofuku Noodle Bar มี pork bun ที่
อร่อนมาก ดังนั้นจึงไม่พลาดที่จะจดร้านนี้ลงลิสท์ และมาจนได้ ร้านตั้งอยู่ระหว่าง 10th-11th street
นั่ง subway มาได้ แล้วเดินเอานิดนึง อยู่ริมถนนเลยค่ะ เป็นร้านห้องแถวเดียว แต่ยาว และนั่งเป็นแบบ
noodle bar เลย กินไป ดูเชฟทำอาหารไป เห็นร้านเล็กๆ แต่คนเยอะนะ
2 ชิ้น/$10 ออนถือว่าแพงนะ เพราะว่าปกติ $10 จะได้เป็นอาหารชามๆเลย แต่ร้านดังก็ละเว้น
เรื่องรสชาติอร่อยดี แต่ออนไม่ใช่คนชอบพวก bun อะไรเท่าไหร่ เลยไม่ได้กรี๊ด แต่ถ้าคนชอบพวกนี้
อย่างพี่โต้คงกรี๊ดมากก แป้งจะนุ่มๆอุ่ม หมูมันๆเป็นชิ้นๆ ราดด้วยซอสเป็ดปักกิ่ง มันหวาน อร่อยเลยยย
ต่อมาด้วยเมนูราเมน ราเมนของเค้า ชื่อเมนูว่า “Momofuku Ramen”
มี pork belly, pork shoulder และ poached egg โรยกับสาหร่าย ผัก และลูกชิ้นแผ่น
สำหรับออน ออนว่าเฉยๆ จำได้ว่าชามละ $16 หรืออะไรประมาณนั้น รสชาติไม่ได้โดดเด่น
บวกกับคนที่เฉยๆกับราเมนอยู่แล้ว เลยยิ่งเฉยๆเข้าไปใหญ่ ถ้ามาคราวหน้าคงกินแต่ pork bun
หลังจากกินเสร็จแล้วก็มาเดินย่อย ปะทะลมหนาวที่ Fifth Avenue
ส่วนร้านที่อยู่ด้านหลังในรูปนี้คือ Sephora ล้าาาาาล้าาาาา ร้านโปรดและสวรรค์ของ
ใครหลายๆคน ออนเดินเข้าไปดูนิดเดียว แต่ว่าไม่ได้ซื้ออะไร
หลังจากนั้นก็เคลื่อนตัวมาที่ แท่น แท๊นนนน Central Park นั่นเอง
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางมหานครนิวยอร์คนั่นเอง กว่าจะได้เข้ามาถึงตรงนี้
เจอมรสุม “คน hard sell” ระดับ 10 เข้ามารุมทึ้งมาก ดังนั้นวันนี้จะขอแชร์ประสบการ์ด้วยเลย
ด้วยความที่ออนกับพี่โต้พึ่งเคยมานิวยอร์คด้วยกันครั้งแรก เลยคิดว่าเราไม่ได้มาบ่อยๆ เลยอยากทำ
โมเม้นท์โรแมนติกโดยการเช่ารถม้านั่งใน Central Park และคนคุมม้าก็จะพาหยุดตามจุดต่างๆ
เพื่อถ่ายรูปให้เรา แต่พอมาดูราคาแล้วโหดมาก ถ้าจำไม่ผิด 1 ชั่วโมง $190 หรืออะไรประมาณนั้น
เลยคิดว่าเอาเงินไปกินอาหารอร่อยๆกันดีกว่า แล้วเราก็เดินชมสวนได้
คนขายที่เป็นเด็กวัยรุ่น ก็บอกว่าให้เช่ารถแบบที่เป็นรถเครื่อง มีคนขับ แต่ไม่มีม้า
เพราะจะถูกกว่า เหลือประมาณ $145 ต่อชั่วโมง ซึ่งสำหรับออน ออนว่าความโรแมนติกมันอยู่ที่ตัวม้า
ดังนั้นเลยไม่เอา ปฏิเสธไปอย่างสุภาพ ขอบคุณ และเดินหนี เงยหน้ามาอีกทีคนขายก็วิ่งมาดักข้างหน้า
พร้อมกับพูดรัวต้องการขายของ 10 นาทีแบบ non-stop ตอนนั้นอยากกรี๊ดมากกก แต่ก็ไม่รู้ว่า
เค้ามีพวกอยู่แถวนี้มั้ย ด้วยความที่เป็นนักท่องเที่ยว ก็ไม่อยากมีปัญหา ฟังคนขายพูดไปมา สรุป
ถ้านั่งลดเครื่อง ลดเหลือ $45 ต่อชั่วโมง (เมื่อกี้บอก $145) แต่ออนกับพี่โต้รู้สึกอึดอัดใจแล้ว ก็เลย
ปฏิเสธแบบสุภาพและเดินหนี คนขายก็วิ่งตามมาเรื่อย ถึงขนาดวิ่งข้ามถนน ข้ามไฟแดง พร้อมกับ
ตะโกนบลา บลา .. เหนื่อยใจจริงๆ ถ้าไม่ hard sell ขนาดนี้ คงได้อุดหนุนกันไปแล้ว
ข้างในสวนกว้างและใหญ่มากกกก มีคนเดินเรื่อยๆ บางคนก็มากันเป็นคู่ บางคนก็มากันเป็น
ครอบครัว เป็นสวนที่ไม่ใช่สีเขียว แต่ดูสวยและมีสเน่ห์ในแบบของตัวเอง
ด้านหลังจะเป็น Ice Rink หรือลานสำหรับเล่นไอซ์สเก็ตในช่วงหน้าหนาวนั่นเอง เพราะอากาศ
ในวันนั้นอุณหภูมิอยู่ที่ 0 องศา หรือติดลบได้ มุมตรงนี้ถ่ายรูปสวยมาก เลยถ่ายรูปคู่ด้วยกันซะหน่อย
เป็นความทรงจำดีๆ ที่ได้มาด้วยกัน
สวนที่นี่ธรรมชาติมาก เพราะระหว่างเดินจะเจอกระรอก นก เป็ด ห่าน ทั้งเดินทั้งวิ่งไปมา
น่ารักเลยทีเดียว พยายามจะแอบถ่ายรูปหลายทีแล้ว แต่ไม่ทัน
บ่อน้ำที่มีน้ำเป็ดว่ายไปมาเต็มไปหมด พอมองตรงไปก็จะเห็นวิวตึกสวยๆ
นิวยอร์คสุดๆ
ถ่ายบนสะพาน พร้อมกับวิวสวยๆจากด้านหลังก่อนจะกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม
เนื่องจากอยากกิน Foie Gras มากกกกก บวกกับ California แบนการนำเข้าและบริโภค
Foie Gras พอมาต่างรัฐเลยต้องรีบกินซะหน่อย คิดถึงงงงงงงงงงงงงมากกกกกกกกกกกกกก
เลยเลือกร้าน Le Bateau Irve เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก ร้านเล็กๆ
แต่เต็มไปด้วยลูกค้า ที่สำคัญร้านนี้เป็น Wine bar ด้วย เพราะทันทีที่เดินเข้าร้านมา จะมีพนักงานพา
มานั่งที่โต๊ะ และถามเกี่ยวกับไวน์ พนักงานแจ้งว่าที่ร้านมีไวน์กว่า 300 ชนิดให้เลือก แต่…ออนไม่ดื่มไวน์
เพราะดื่มแล้วง่วง ดังนั้นสั่งอาหารเลยย
จานแรกที่สั่งมาก็คือ Terrine De Foie Gras with Jelly & Toast
มาแบบยังไม่ได้เผาไฟนั่นเอง เสิร์ฟพร้อมแยมกับขนมปัง ตอนกินนี่ละเมียดละไมมากกก เพราะต้อง
กินให้คุ้ม ใช้ทุกวินาทีให้เต็มที่ เพราะเดี๋ยวกลับมา California ก็จะไม่ได้กินแล้ว คืออร่อยยยยยย
มันมีความสุข กินไปยิ้มไป ยิ่งร้านอาหารฝรั่งเศสด้วย ทำอร่อยเหาะเลย
จานต่อมา ชื่อภาษาฝรั่งเศสอ่านไม่ออกจริงๆ ดังนั้นขอพิมพ์ชื่อง่ายๆ
นั่นก็คือ “Mussels in White Wine, Shallots & Cream Sauce” จากนนี้เป็นอะไรที่ฟินมากกก
หอยมาประมาณร้อยตัวมันเยอะมากกกกกก ตัวจะเล็กๆ แต่ให้ปริมาณเยอะ และรสชาติน้ำซอสเค้าคือ
เข้มข้น ถึงรสสุดๆ กินกับพี่โต้สองคนฟาดหอยไปว่ายน้ำอยู่ในกะเพาะกัน 100 กว่าตัวได้
จานนี้ของพี่โต้ก็คือ “Grilled Sirlion Steak” เสิร์ฟคู่กับ French fries และ Herb Butter
ความสุกของพี่โต้อยู่ที่ Medium ออนลองชิมแล้วเนื้อนุ่มใช้ได้เลย Herb Butter เค้าก็อร่อย
แบบเข้มข้น ไม่จืดๆเลี่ยนๆแบบบางที่ที่เคยกินมา และจานนี้ก็โดนพี่โต้ฟาดเรียบ
ปิดท้ายด้วยของหวานกับ Creme Brulee ของหวานจานโปรดของออน ออนเป็นคนที่กินอาหาร
คาวแล้วต้องตามด้วยของหวาน ไม่งั้นถือว่าไม่จบ ไม่ครบคอร์ส ร้านอาหารฝรั่งเศส ถ้าทำ Creme Brulee
ง่ายๆออกมาไม่อร่อย คงเสียชื่อแย่ ดังนั้นบอกเลยว่าที่นี่ทำอร่อย เนื้อครีมไม่หวานจนเกินไป กำลัง
นุ่มๆละมุนๆ ส่วนน้ำตาลบนหน้าก็เผามาแบบกำลังดี ผ่านโลดดดดด
เสร็จแล้วก็กลับโรงแรมพักผ่อน เพราะแต่ละวันเหนื่อยมาก ด้วยอากาศที่เย็น และไม่ชินกับการเดิน
เพราะอยู่ California ทุกอย่างใช้รถหมด ไม่มีการเดินแบบที่นี่ ดังนั้นขาเลยปรับตัวไม่ทัน จริงๆอยากเขียน
New York Day 4 แยก แต่เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายที่กลับ เลยไม่มีอะไรมาก ดังนั้นขอรวมไว้ในหน้านี้ด้วยเลย
วันสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องก็มากินปิ้งๆยิ่งๆกันซะหน่อยที่ Gyu-Kaku ใจจริงอยากหาร้านอื่น
แต่ไม่มีร้านไหนเปิดช่วงเช้า-เที่ยงเลยแถวที่หา มีแต่เปิดเย็นกันทั้งนั้น เลยมากินร้านนี้ (ทั้งๆที่
อยู่ California ก็กินตลอดๆ) แต่ Gyu-Kaku ที่นี่จะไม่เหมือนที่ไทย ที่นี่จะเป็น Casual มากกว่า
อาหารราคาแบบคนทั่วไปรับไหว ไม่เหมือนที่ไทยที่ทำเป็นแบบราคาแพง เห็นราคาแล้วตกใจเลยทีเดียว
หลังจากกินเสร็จก็ไปเอากระเป๋า และขึ้นแท็กซี่ไปแอร์พอร์ต การขึ้นแท็กซี่ที่นี่จะมีแท็กซี่ที่วิ่งทั่วไป
แบบนั้นราคาจะคิดตามมิเตอร์ และแท็กซี่แบบ “รถดำ” ซึ่งจะต้องโทรเรียก และคิดเป็นราคาเหมา ออน
นั่งทั้ง 2 แบบเลย แต่ขากลับที่จะนั่งไปแอร์พอร์ท ทางโรงแรมติดต่อแบบแท็กซี่รถดำให้ โดยเหมา $70
สำหรับออน ออนว่าคุ้มเพราะวันนั้นรถติดมา ประมาณเกือบๆ 2 ชั่วโมงได้ ถ้านั่งแบบมิเตอร์ คงกระฉุดแน่
วันนี้ก็จบกันไปกับ New York Trip Day 3 & 4 นะคะ
หวังว่าจะเป็นไอเดียสำหรับสาวๆได้ เผื่อใครกำลังอยากไปเที่ยว ไปพักผ่อน
ไว้เจอกันใหม่นะคะ
สวัสดีค่า