สวัสดีค่า
วันนีิ้ออนก็จะมา review skin care ตัวโปรดของออนให้ดูกันนะคะ ซึ่งก็คือแบรนด์
Biotherm นั่นเอง .. ออนเริ่มใช้แบรนด์นี้มาตั้งแต่อายุประมาณ 15-16 แล้ว
ช่วงที่เพิ่งไปออสเตรเลียใหม่ๆ และผิวหน้ายังไม่ชินก้บอากาศเท่าไหร่
พอกลับมาเมืองไทย ก็สนใจแบรนด์นี้ เพราะเห็นว่ามีไลน์สำหรับผิวผสม
และคุณสมบัติก็คือเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน แต่จะไม่ทำให้ผิวมัน ซึั่งก็เหมือน
กับการปรับสมดุลของผิวหน้า ก็เลยลองใช้ดูค่ะ
และถึงตอนนี้จะ 20 แล้ว ก็กลับมาใช้ใหม่ และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ
โดยเริ่มแรกก่อนจะเป็น 2 ตัวนี้
Biotherm Aquasource Hydra-Mineral Lotion-Toning Fluid 200ml
ราคา 990 บาท ( ช็อปไทย )
เป็นโทนเนอร์ตัวโปรดของออนเลยยยยย ช๊อบบบ ชอบบบบบ
ถ้าคนที่เคยอ่าน review เก่าของออนไป ที่ออนใช้ Loreal รุ่น Hydrafresh
คงจะพอเดาออกว่าออนชอบอะไรประมาณนี้ แบบสีเขียวๆ ฟ้าๆ เจลๆ หยุ่นๆ ดุ๋ยๆ เด๋งๆ ฮ่าๆๆ
แต่ตัวนี้ชอบมากกว่า Loreal เพราะว่าแอลกอฮอลล์น้อยกว่า คือเวลาทาไปที่หน้าแล้วรู้สึกได้
รู้สึก ว่ามันจะชุ่มชื่นกว่า และรู้สึกว่าแบบว่า mineral มากกว่า
( อันนี้ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่า T_T” สงสัยเห่อลูกร้กอยู่ ฮ่าๆ )
ออนเป็นคนติดโทนเนอร์มากๆ เพราะว่าเวลาใช้แล้วรู้สึกว่าครีมซึมลงเร็ว
ไม่งั้นเหมือนครีมจะไม่ซึม หรือต่อให้ครีมซึม ออนก็จะไม่รุ้สึก รู้สึกอะไรขาดๆหายๆ
ตัวนี้ออนใช้เทกับสำลีค่ะ เพราะโทนเน่อร์เป็นน้ำใสๆเลย ไม่ได้เป็นน้ำข้นๆเหมือนของเกาหลี
ที่จะเทใส่มือแล้วแปะๆหน้าได้
Biotherm Aquasource Non-Stop Hydrating Rebalancing
Aligo-Thermal Milky Lotion 125ml.
( ไม่มีขายที่ไทยค่ะ )
ตัวนี้ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะซื้ออะไร ไปลองเล่นๆที่ดิวตี้ฟรีคั่นเวลา ฮ่าๆ
แต่ลองทากับมือแล้วซึมเร็วมากกกกกกกก แบบเนียนไปเลย แล้วมือจะนุ่มๆ สบายๆ หยุยๆ
ชอบๆ แล้วออนชอบกลิ่นอะไรแบบนี้ด้วย อธิบายไม่ถูก ออนชอบกลิ่นมันมากกก
รู้สึกเหมือนมีน้ำแร่มา ชโลมผิวยังไม่รู้ ( เว่อร์อีกแล้ว ) ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าแอร์ที่
แอร์พอร์ทมันเย็นทำให้ซึมเร็ว บอกกับอากาศที่จีนมันแห้งๆด้วยรึเปล่า
แต่พอออนคำนวนราคาแล้ว .. โทนเนอร์กับตัวนี้รวมกับ 2,000 บาท ก็ซื้อเลยทันทีทันใด
เพราะจำได้ว่าตัวม๊อยเจอร์ของของ Biotherm จะแพงกว่าโทนเนอร์ บวกลบแล้วคุ้ม ฮ่าๆๆ
แต่หลังจากที่ได้ลองใช้แล้ว .. ปลื้มมากกกก ชอบตัวนี้มากๆเลยค่ะ
คือออนใช้ทาทั้งกลางวันและกลางคืนเลย เพราะว่าตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นได้ดี โดยไม่ทำให้ผิว
ออนขาดความชุ่มชื้นจากภายใน แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามัน ปรับสมดุลของผิวได้ดีมากๆ เป็นไลน์ที่ดี
อีกตัวนึงของสาวๆผิวผสมเลยค่ะ ตอนนี้ก็ให้พี่สาวซื้อมาให้อีกขวด ก็เป็นขวดที่ 2 แล้ว
เรียกว่าเป็น Must Have ไปเลย
Biotherm Aquasource Skin Perfection
Hydra-perfecting lotion 200ml.
หลังจากโทนเน่อ์ขวดด้านบนหมด ก็ไปด้อมๆมองๆที่ counter Biotherm แล้วก็เห็นตัวนี้
ซึ่ง BA แนะนำว่าเป็นโทนเน่อร์ที่ออกใหม่ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ออนก็เลยลองซื้อมาดู
หลังจากทาแล้ว ตัวนี้จะอ่อนกว่าตัว Aquasource ด้านบน เหมือนแอลกอฮอลล์ น้ำหอม
หรืออะไรซักอย่างที่อ่อนกว่า ดังนั้นใครแพ้ง่าย หรือชอบอะไรอ่อนๆ ก็ลองตัวนี้ได้ค่ะ
แต่ส่วนตัวแล้วชอบตัวเก่ามากกว่า เพราะรู้สึกว่าเวลาเช็ดแล้วมันรู้สึกสดชื่น
และรู้สึกว่าหน้าสะอาดกว่าจริงๆ ยังไงเดี๋ยวใช้ตัวนี้หมด ก็จะกลับไปหาตัวเก่าเหมือนเดิมค่ะ
เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน ออนได้ร่วมเล่นเกมส์ใน Biotherm Facebook Fan Page
โดยเกมส์ที่ให้เล่นก็คือ ให้บอกว่าผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นโปรดของเรา เพราะอะไร
ออนก็เลยพูดถึงตัว Aquasource ไปค่ะ เพราะว่าใช้อยู่แล้วและชอบมาก ปรากฏว่าได้เป็น
1 ใน 10 ผู้โชคดี ได้รับผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นๆด้วยค่ะ หลังจากนั้นทาง Biotherm ก็อีเมล์มาแจ้ง
ที่ๆสะดวกไปรับสินค้า .. ซึ่งออนก็แจ้งไปว่าที่สยามพาราก้อนค่ะ วันนี้พอสอบเสร็จหมด
ออนก็รีบไปรับสินค้าเลย ตื่นเต้นมากๆ พี่ๆ BA ทั้ง 2 คนที่อยู่ที่สาขาก็ใจดีมากๆ พูดจาดี
เป็นกันเอง แถมมีการถ่ายรูปคู่กันด้วย ฮ่าๆ ก็เป็นอย่างในรูปเลยค่ะ
Biotherm Aquasoure Non-Stop Oligo-Thermal Gel Intense
Moisturization for Normal/Combination Skin 50ml
ราคาในช็อป 1,800 บาท
ตัวนี้เป็นตัวแรกเลยที่ใช้ตั้งแต่ช่วงอายุ 16 เพราะตอนนั้นอากาศที่ออสเตรเลียค่อนข้างแห้ง
แล้วก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พอใช้ตัวนี้แล้วหน้าไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ ไม่ลอก ไม่เป็นขุย
ไม่มันเกินไป หรือไม่มีสิว เนื้อเจลจะข้นกว่าตัว milky ด้านบนนิดนึง ใครที่มีสภาพผิว
ผสม-ผิวธรรมดา ตัวนี้ก็น่าสนค่ะ เพราะไม่มันไม่แห้งจนเกินไป ออนเป็นคนชอบกลิ่นในไลน์
ของ Aquasource มากๆ เพราะว่าดมแล้ว รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย สบายๆ
อันนี้ซูมใกล้ๆให้เห็นเนื้อเจลกันค่ะ เนื้อเจลจะใสกว่า milky แต่จะให้ความชุ่มชื้นมากกว่า
คือ milky จะซึมง่ายกว่าค่ะ ดังนั้นออนอาจจะใช้ตัว milky กลางวัน และใช้ตัว gel ทา
ตอนกลางคืน เพราะตอนกลางคืน ออนมักจะทา moisturizer ที่ค่อนข้างเข้มข้นกว่ามากๆ
เพื่อที่ว่าหน้าออนจะได้ไม่ขาดความชุ่มชื้น ผิวมีน้ำหล่อเลี้ยงจากภายใน และตื่นเช้ามาก็ไม่จำ
เป็นต้องลง moisturizer เยอะๆให้หน้ามันเร็วอีกด้วย