สวัสดีค่ะ
วันนี้มาอัพเดท เขียน blog ให้อ่านกันในวัน Christmas Eve เลย ก็ขอ
Happy Christmas Eve ให้กับสาวๆทุกคนนะคะ วันนี้เลยจะมาอัพ blog เกี่ยวกับ
ร้านอาหารให้อ่านกันค่ะ หลายๆคนคงจะทราบแล้วว่า ความสุขของออน นอกจากจะเป็นใน
เรื่องของแต่งหน้า ซื้อเครื่องสำอางแล้ว การได้ทานอาหารดีๆ อร่อยๆ บรรยากาศสวยๆ ก็เป็น
อีกหนึ่งเรื่องที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ ยอมรับว่าออนเป็นคนที่ติดการ “กินบรรยากาศ” มากๆ
เป็นความสุขจริงๆ ที่ได้นั่งที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ สบายๆ นั่งคุย ไม่ต้องเร่งรีบ
วันนี้เลยถือโอกาสมาเขียน Review ของร้าน Sirocco ให้อ่านกันค่ะ
ซึ่งออนมีโอกาสได้ไปมาครั้งแรกตอนวันเกิด ครบ 22 ปีของออน ที่คุณแฟนพาไป
ทานดินเนอร์ ร้านนี้เป็นร้านในฝันของออนเลย เพราะออนเป็นคนที่ชอบทานร้านอาหารที่
บรรยากาศดี วิวสวย เป็น Rooftop บนชั้นสูงๆ ปีนี้ได้ไปสมใจ เลยต้องรีบมาเขียนให้
อ่านกัน เผือใครกำลังมองหาร้านอาหารที่จะพาครอบครัว คนพิเศษ หรือแขกพิเศษ
พาไปฉลองในช่วงนี้
Sirocco เป็นร้านอาหาร ที่ตั้งอยู่บนชั้น 64 ของตึก State Tower
(ติดกับตรงส่วนของโรงแรม Le Bua) ร้านอาหารจะเป็น Rooftop มี The Dome
และมีส่วนของ Sky Bar
Dress Code : Semi-Formal สำหรับการมาทานอาหาร แต่ถ้าจะมา
แค่ดื่ม Cocktail ดูบรรยากาศตรง Sky Bar อย่างเดียว ทางร้านก็อนุโลมให้
แต่งเป็นแบบ Casual ได้ค่ะ แต่จริงๆพวกกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ เสื้อยืดอะไรแบบนี้
ไม่สมควรแต่งไปเท่าไหร่ เพราะแขกที่ไปทานที่นั่นจะแต่งกันค่อนข้าง Formal ค่ะ เป็นเดรส
เป็นเสื้อเชิร์ก ใส่สูทอะไรกันแบบนี้เลย
วิวด้านบนจะเป็นแบบนี้ค่ะ ซึ่งจะมีในส่วนของ Smoking กับ Non-Smoking Area
ตอนแรกคุณแฟนจองไว้ในส่วนของ Non-Smoking แต่ว่าวิวจะไม่สวยเท่า Smoking Area
เลยขอเปลี่ยนมาตรงนี้แทนค่ะ นั่งติดริมขอบร้านอาหาร เห็นวิวสวยๆ
อันนี้คือเมนูในส่วนของ Starters นะคะ
ออนสั่ง Foie Gras ไป และคุณแฟนสั่ง House Cured Tasmanian Salmon ค่ะ
อันนี้จะเป็นในส่วนของ Main Course หรืออาหารจานหลักของเรานั่นเอง
ออนเลือกสั่ง Canon of Australian Lamb เพราะออนเป็นคนชอบทานเนื้อแกะมาก
รู้สึกคิดเองว่าเนื้อแกะมันหอมมาก ส่วนคุณแฟนสั่ง Wagyu Beef Sirlion
ตรงส่วนนี้จะเป็น Seafood Section คือสำหรับคนที่ชอบทาน Oysters และ Caviar
เห็นราคาแล้วแบบเป็นลมไม่เบาตรง Caviar เนี่ยแหละ ตรงนี้ออนไม่ได้สั่งอะไรทานค่ะ
ตรงส่วนนี้จะเป็น Chef’s Tasting คือมาในปริมาณน้อยๆ แต่ว่าได้หลาย
Courses เลย ตามเมนูทั้งหมดค่ะ ถ้าจำไม่ผิด Chef’s Tasting แบบไม่มี Champagne
จะอยู่ที่คนละ 4,500 บาทต่อเซ็ต แต่ถ้ามี Champagne ด้วย น่าจะ 6,500 หรือ 7,500 บาทค่ะ
House Cured Tasmanian Salmon ( 850 บาท)
Starter จานแรกของคุณแฟนมาแล้ว เป็น Smoked Salmon ชิ้นกำลังพอดีคำ
เสิร์ฟมาพร้อมกับสมุนไพรต่างๆ, น้ำมะนาวที่เป็นเจลๆ และน้ำมันงาดำ รสชาติกำลังดี
เลยค่ะ ปลาแซลม่อนไม่เหม็นคาว สด และ light มาก จานนี้หมดไปอย่างรวดเร็ว
เพราะว่าชอบทานพวกปลาดิบด้วยกันทั้งคู่
Foie Gras (990 บาท)
มาถึงของโปรดของออนกันบ้าง ทะด๊าาาา.. Foie Gras ค่ะ
เป็นแบบ Terrine ที่ราดมาพร้อมกับช็อกโกแลตซอส ตัว Foie Gras คือแท่งยาวๆ
นั่นเอง เห็นแล้วจะเป็นลม อร่อยจริงๆ เสิร์ฟมาพรอมกับ Xiang Li Chutney ซึ่ง
ออนก็ไม่ทราบว่าคืออะไร แต่ทานด้วยกันแล้วอร่อยดี และ Toasted Brioche ซึ่ง
จะเป็นเหมือนแป้งบางๆ อบกรอบค่ะ คุณแฟนชิมไปนิดนึง เพราะเค้าไม่ใช่คนที่ชอบ
ทาน Foie Gras เท่าไหร่ (แต่ก็ชอบมากกว่า Seared Foie Gras แบบพวกในซูชิ)
ระหว่างรอ Main Course มา เลยพักถ่ายรูปหน่อย
วิวสวยมากกกกก
Canon of Australian Lamb (1990 บาท)
เนื้อแกะนุ่มๆ 2 ชิ้น เนื้อนุ่มมากกกกกก เสิร์ฟมาพร้อมกับซอส, Potato Mille-Feuille
และอะไรอีกไม่รู้ที่ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ทานแล้วอร่อยดี ออนเลือกความสุกแบบ Medium Rare
ค่ะ อร่อย นุ่มมมมมมม กำลังอิ่มเลย
Wagyu Beef Sirlion (2,780 บาท)
อันนี้เป็นเนื้อ Wagyu ตรงส่วนของสันนอกค่ะ คุณแฟนสั่งแบบ Medium ไป
แต่แอบได้ Medium Rare มา แต่ออนชอบทานแบบ Medium Rare อยู่แล้ว เลยโอเค
ไม่มีปัญหา เนื้อนุ่มๆ อร่อยๆ ทานแล้วนุ่มลิ้นมากค่ะ ใจจริงอยากให้เนื้อชิ้นใหญ่กว่านี้
ซักนิดดดดดดด จะดีมาก
ตอนแรกจะสั่ง Dessert เพื่อปิดท้าย แต่ปรากฏว่ามี Surprise Birthday Cake
ที่คุณแฟนเตี๊ยมไว้กับพนักงาน และระหว่างที่พนักงานนำเค้กมาเสิร์ฟที่โต๊ะ นักร้องที่
มาร้องเป็น Live band ก็ร้อง Happy Birthday ให้ออน เซอไพรส์มากๆ
พอได้เค้กมา ก็ได้เวลาขอพร Make A Wish ก่อนเป่าเทียน
วิวกับ The Dome
อันนี้เห็นวิวของกรุงเทพแบบรอบๆเลย
วิวแม่น้ำเจ้าพระยา สวยมาก
จบกันที่รูปสุดท้าย
การมาทานอาหารที่นี่ คงเหมาะสำหรับวันพิเศษจริงๆ ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง
เรียกว่าเป็น One of the most expensive restaurants in Thailand เลยก็ว่าได้ แต่
สำหรับออนคิดว่า ถ้าสำหรับโอกาสพิเศษ หรือพาแขกพิเศษต่างชาติมา เพื่อทานบรรยากาศ
ก็เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า จริงๆถ้าอยากมาทานบรรยากาศอย่างเดียว ไม่สั่งอาหาร
สามารถไปสั่ง Drinks อย่างเดียวตรง Sky Bar ได้ค่ะ แต่จะต้องยืน ไม่มีโต๊ะให้
และจะต้องอยู่แค่ตรง Sky Bar ซึ่งราคา Cocktails เท่าที่เห็นจะอยู่ที่ 550 บาท ต่อแก้ว
และนอกนั้นก็แล้วแต่ราคา Champagne หรือ Wine ที่สั่งค่ะ
แต่สำหรับออน ออนประทับใจบรรยากาศ ประทับใจวิวที่สวยงามของกรุงเทพ
ประทับใจเซอไพรส์ในวันเกิดออน ประทับใจพนักงานที่ถ่ายรูปออกมาได้สวยมาก
ออนคิดว่าร้านอาหารที่แพงๆ เน้นขายวิวแบบนี้ ควรมีพนักงาน 1-2 คนที่สามารถใช้
พวกกล้องเป็น และรู้จักการปรับแสง รู้จักมุมในการถ่ายรูป เพื่อถ่ายให้แขกที่มาทานอาหาร
ได้ และแขกจะได้ๆรูปสวยๆกลับไปเป็นที่ระลึก และแน่นอนว่าถ้าไปโชว์คนอื่นๆ หรือนำมา
เขียน Review แบบออน คนอื่นๆที่เห็น ก็ยิ่งอยากมา
และท้ายสุด.. ประทับใจคนที่พามาที่นี่
เป็นที่ๆฝันและคิดมาตลอดว่าอยากมา แต่อยากมากับคนพิเศษ ในโอกาสพิเศษจริงๆ
และสุดท้ายฝันก็เป็นจริง เซอไพรส์ มีความสุข ประทับใจมากๆ ขอบคุณค่ะ
Disclaimer : การเขียน Review ร้านอาหาร พร้อมราคา ไม่ได้มีความคิดที่จะอวด
หรืออะไร แต่เพื่อคนอื่นๆที่สนใจ กำลังมองหาร้านอาหารแนวนี้ หรือกำลังอยากมาที่นี่
แล้วหาข้อมูลอยู่ จะได้ๆข้อมูลที่ครบที่สุด มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ไว้เจอกันใหม่นะคะ