สวัสดีค่ะ
หายไปเกือบ 1 เดือนเต็มๆเลย ที่ไม่ได้ทำกระทู้ใน Jeban เพราะว่ามีสอบ Final
และทันทีที่สอบเสร็จ วันรุ่งขึ้นออนก็บินมาเรียนภาษาที่เซี่ยงไฮ้เลย แพลนจะเรียนที่นี่
1 เดือน และกลับไทย ตอนแรกที่เช็คอากาศ คิดว่าอากาศคงเย็นๆสบายๆ ดูไม่น่าจะหนาวเท่าไหร่
แต่พอมาลมแรงมาก ซึ่งยิ่งทำให้หนาวกว่าปกติ แถมอากาศเปลี่ยนวันละหลายๆครั้ง
ตั้งแต่หนาวตอนเช้า ร้อนตอนเที่ยง ฝนตกตอนบ่าย หมอกลงตอนเย็น หนาวตอนกลางคืน
เสื้อผ้าที่เตรียมมาก็ไม่พอ ดังนั้นเลยต้องไปซื้อเพิ่มจากในห้างวันแรกที่ถึงเลย
มาดูกันดีกว่าว่าเวลาจะไปเที่ยวต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด
เราควรจะเตรียมเสื้อผ้ายังไงบ้าง เพื่อที่จะได้ Mix & Match ได้ง่ายๆ ไม่ซ้ำ และดูไม่น่าเบื่อ
1. เน้นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น อะไรที่ใส่ได้ง่ายๆสบายๆ ไม่ต้องเยอะ
2. เตรียม Cardigan หรือเสื้อคลุมไปเผื่อ เน้นสีเรียบๆ จะได้ใส่ได้กับหลายชุด
3. ถ้าหากชอบใส่ชุดกระโปรง เตรียมไปได้เลย เอาไปประยุกต์ใส่กับ Cardigan ได้สบายๆ
4. หาอุปกรณ์น่ารักๆ เช่นกิ๊บติดผม คาดผม ต่างหู หรือผ้าพันคอเผื่อไป
5. เตรียมรองเท้าที่เน้นเดินถนัด และเผื่อส้นสูงไปด้วย ในกรณีไปสถานที่ๆควรจะต้องแต่งตัวดีๆ
2. เตรียม Cardigan หรือเสื้อคลุมไปเผื่อ เน้นสีเรียบๆ จะได้ใส่ได้กับหลายชุด
3. ถ้าหากชอบใส่ชุดกระโปรง เตรียมไปได้เลย เอาไปประยุกต์ใส่กับ Cardigan ได้สบายๆ
4. หาอุปกรณ์น่ารักๆ เช่นกิ๊บติดผม คาดผม ต่างหู หรือผ้าพันคอเผื่อไป
5. เตรียมรองเท้าที่เน้นเดินถนัด และเผื่อส้นสูงไปด้วย ในกรณีไปสถานที่ๆควรจะต้องแต่งตัวดีๆ

ชุดนี้เป็นชุดกระโปรงลายดอกไม้สีชมพู-ขาวที่ออนใส่บ่อยๆ แล้วเอา Cardigan
ของ H&Mที่พึ่งซื้อที่นี่มาใส่คลุมกันลมหนาว ม้วนผมให้ได้ลอนคลายๆ แล้วเก็บผมด้านหน้า
ขึ้นไป ติดด้วยกิ๊บดอกไม้ และใส่สร้อยข้อมือมุกของ Top Shop เล็กน้อย ก็จะได้ลุคหวานๆกันไปเลย
อันนี้เป็นรูปถ่ายเต็มตัว ค่อนข้างเรียบง่าย ถ้าหากร้อนก็ถอด Cardigan
ออกได้ ส่วนรองเท้าเน้นใส่สบายเดินง่าย ก็จะเป็นรองเท้าแตะมีโบว์สีน้ำตาลทอง
ส่วนวันนั้นไปเที่ยว Yuyuan ก็เลือกแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ โดยเอา Cardigan
สีชมพูตัวเดิมจาก H&M มาใส่คลุมทับเสื้อสายเดี่ยวพริ้วๆสีน้ำเงินลายดอกไม้สีชมพูอ่อน และเลือก
ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นสีฟ้าอ่อน ที่ตรงปลายจะมีลูกไม้เป็นดอกไม้เล็กน้อย ลุคนี้กับลุคที่แล้วก็จะหวานๆ
เหมือนกันแต่หวานกันคนละแบบ เพราะลุคนี้จะดูคล่องแคล่วกว่า
ส่วนชุดนี้คือชุดที่จะไปถ่ายรูปกับ Shanghai Oriental Pearl Tower หรือ
หอไข่มุกนั่นเองเลยตั้งใจเพิ่มขึ้นมานิดนึงในการแต่ง ออนเลือก Blazer ผู้หญิงสีชมพูอ่อน
มาใส่ทับชุดกระโปรงลูกไม้สีขาว ที่คุณย่าตัดให้ สีที่ออกมาจะเป็นสีโทน Beige เลย แล้วก็เน้น
ดอกไม้ที่ผมเล็กน้อยโดยจะม้วนผม แล้วเก็บผมด้านบนไปด้านนึงก่อนจะติดดอกไม้ ซึ่งลุคที่ดูเรียบๆ
ก็จะดูมีอะไรพิเศษขึ้นมา เพียงแค่เราใส่เครื่องประดับเล็กๆน้อยๆเติมเข้าไปดอกไม้ติดผมอันนี้ซื้อจากร้านใน Central World เมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา
เป็นเหมือนร้านออกบูธเลยไม่แน่ใจว่าจะมีขายที่ไหนอีก แต่คิดว่าสยามสแควร์ หรือห้างทั่วๆไปมีแน่นอน
ถ่ายกับหอไข่มุก และด้านหลังเป็น iStudio ที่ใหญ่มากๆ และสวยมากๆนั่นเอง
ตรงแสงจ้าๆในกลมๆนั่นเป็นสัญลักษณ์ของ Apple เลย มีการ์ดยืนคุมเยอะมาก เหมือน
กับ iStudioที่ไทยประมาณ 20 สาขารวมกันก็ว่าได้ มีบันไดวนลงไปด้วย รูปนี้เริ่มหนาวมาก
เลยรีบเอากระดุมมาติดกัน
สุดท้ายหนาวเกินจะทน เลยรีบวิ่งเข้า Super Brand Mall ( รู้สึก CP จะเคย
เป็นเจ้าของด้วยห้างของคนไทยนั่นเอง แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังเป็นรึเปล่า ) หาร้านขายผ้าพันคอ
สุดท้ายก็ได้มาเป็นผ้าพันคอสีเทา ลายดอกไม้เล็กๆ ผืนยาวจาก MNG ส่วนวิธีพัน ออนก็เอาผูกๆ
เข้าไปตามปกติเลยอุ่นคอขึ้นแล้วสบายขึ้นมากๆ
แอบเอารูปที่ถ่ายชัดๆกับหอไข่มุกมาให้ดูอีกที และรูปนี้เห็นผมด้านข้าง
นิดนึงด้วยว่าจะเน้นให้ผมด้านบนดูมี Volume ทำให้ผมดูไม่ลีบแบน และช่วยให้คนที่หน้ากลมดูหน้าไม่บาน
ส่วนวันนี้ไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารชื่อดังอย่าง Three On The Bund
อยู่บนชั้น 7ตรง The Bund ( ฝั่งเมืองเก่า Puxi ) ซึ่งแนะนำว่าให้ไปช่วงประมาณ 6
โมงเย็นที่ร้านเปิดเลย เพราะจะเห็นฝั่งเมืองเก่า Puxi และฝั่งเมืองใหม่ Pudong ได้ชัดมาก
และพอตกเย็นก็จะเห็นไฟสวยๆจากทั้งสองเมืองเลย เป็นวิวที่สวยมาก ยิ่งถ้าได้ดูตอนพระ
อาทิตย์ตกดินด้วยร้านนี้ต้องแต่งตัวดีไม่แพ้กับร้านในโรงแรมเลยทีเดียวออนเลยเลือกใส่ Blazer สีชมพูตัวเดิม แต่เปลี่ยนเสื้อข้างในเป็นเสื้อเชิร์ต
แขนยาวลายเสือ และใส่กางเกงขาสั้นไว้ข้างใน พร้อมกับถุงน่อง ให้เหมาะกับบรรยากาศที่มา
ทานข้าวตอนกลางคืนเป็นอารมณ์ Outfit for the night นั่นเอง ส่วนผมก็ทำคล้ายๆกับทรงก่อน
แต่คราวนี้ถักเปียข้ามหัวแล้วดึงให้เปียคลายๆ ผมก็จะดูโป่งพองขึ้น ดูมี Volume มากขึ้น
แล้วก็เสริมด้วยดอกไม้
อันนี้เป็นรูปทรงผมชัดๆ ส่วนดอกไม้ติดผมอันนี้ซื้อจาก H&M ที่เซี่ยงไฮ้ค่ะ
น่ารักมากๆ ว่าจะไปซื้อมาเพิ่มอีกหลายๆคู่ สำหรับสีผมออน ออนทำเองและผมสีเอง
ดังนั้นออนไม่ทราบว่าสีนี้คือสีอะไร เรียกว่าอะไร แต่ออนใช้น้ำยาของ Schwarzkopf
รุ่น Blythe ผสมกันประมาณ 2 สีค่ะ
อันนี้ถ่ายตอนพระอาทิตย์ใกล้จะตกจากชั้น 7 ของร้าน Three On The Bund
จะเห็นเมืองเก่า Puxi ที่เหมือนกับเราเดินอยู่ในยุโรปเลย ที่สำคัญเห็นธงชาติจีนด้วย เป็นวิวที่หลายๆ
คนต้องมาถ่ายเลย ในรูปออนใส่ถุงน่องสีดำ และรองเท้าสีน้ำตาลกำมะหยี่มีดอกไม้ติดตรงด้านหน้า
เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ขึ้นไปดื่ม Cocktail ที่ Cloub 9 Bar บนชั้น 87 ของตึก Jin Mao
( จริงๆมันเหมือนเชื่อมกับ Grand Hyatt เลย ) เลือกมาที่นี่เพราะว่าอยากดูวิวหอไข่มุก
เลยไม่ขึ้นไปทานอาหารที่หอไข่มุก บวกกับหลายๆคนบอกว่าอาหารบนหอไข่มุกไม่อร่อย
เลยมาดื่ม Cocktail แทนดีกว่า แนะนำว่าให้โทรไปจองโต๊ะก่อน และขอโต๊ะติดหน้าต่างเพราะออนเป็นคนโทรไปจองเอง และย้ำกับพนักงานว่าขอโต๊ะติดหน้าต่าง ซึ่งพนักงานบางคนจะ
บอกว่าไม่รับจอง อารมณ์แนวๆ ” First-come First-Served ” ไม่ต้องสนใจค่ะ บอกไปว่าจะจอง
และบอกชื่อ เวลา เบอร์โทร พร้อมจำนวนคนที่จะไปเลย เพราะอย่างวันที่ออนไป มีคนไม่ได้จอง ก็ไม่ได้ที่นั่ง
หรือได้ที่นั่งในๆ ซึ่งมองไม่เห็นอะไรเลย ออนเลือกใส่ชุดรัดรูปสีดำเปิดไหล่ข้างนึง ใส่กับรองเท้าส้นสูง
โดยมีเครื่องประดับเล็กน้อยคือกิ๊บดอกไม้ของ H&Mที่ผม สร้อยข้อมือมุกจาก Top Shop
และรองเท้าส้นสูงสีครีมดอกไม้ซื้อจากตลาดอารมณ์แพลทตินั่ม Qipu Market ที่เซี่ยงไฮ้
( จริงๆมันเหมือนเชื่อมกับ Grand Hyatt เลย ) เลือกมาที่นี่เพราะว่าอยากดูวิวหอไข่มุก
เลยไม่ขึ้นไปทานอาหารที่หอไข่มุก บวกกับหลายๆคนบอกว่าอาหารบนหอไข่มุกไม่อร่อย
เลยมาดื่ม Cocktail แทนดีกว่า แนะนำว่าให้โทรไปจองโต๊ะก่อน และขอโต๊ะติดหน้าต่างเพราะออนเป็นคนโทรไปจองเอง และย้ำกับพนักงานว่าขอโต๊ะติดหน้าต่าง ซึ่งพนักงานบางคนจะ
บอกว่าไม่รับจอง อารมณ์แนวๆ ” First-come First-Served ” ไม่ต้องสนใจค่ะ บอกไปว่าจะจอง
และบอกชื่อ เวลา เบอร์โทร พร้อมจำนวนคนที่จะไปเลย เพราะอย่างวันที่ออนไป มีคนไม่ได้จอง ก็ไม่ได้ที่นั่ง
หรือได้ที่นั่งในๆ ซึ่งมองไม่เห็นอะไรเลย ออนเลือกใส่ชุดรัดรูปสีดำเปิดไหล่ข้างนึง ใส่กับรองเท้าส้นสูง
โดยมีเครื่องประดับเล็กน้อยคือกิ๊บดอกไม้ของ H&Mที่ผม สร้อยข้อมือมุกจาก Top Shop
และรองเท้าส้นสูงสีครีมดอกไม้ซื้อจากตลาดอารมณ์แพลทตินั่ม Qipu Market ที่เซี่ยงไฮ้
อันนี้เป็นชุดเต็มตัว เลือกใส่ชุดนี้เพราะคิดว่าการที่เราขึ้นมาทานอาหารบนโรงแรม
หรือร้านที่ค่อนข้างมีราคากว่าที่อื่น เราควรให้เกียรติสถานที่เค้า เพราะอย่าง Sirroco ที่ไทย
ก็ไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะไป
หรือร้านที่ค่อนข้างมีราคากว่าที่อื่น เราควรให้เกียรติสถานที่เค้า เพราะอย่าง Sirroco ที่ไทย
ก็ไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะไป
มาที่อีกชุดนึง เป็นชุดกระโปรงสีส้ม ซึ่งในรูปไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ ใส่ชุดนี้ไป Thai Night
นั่นเอง มาถึงได้ 2 คืน ก็มี Thai Night ซะแล้ว แถมเจอเพื่อนๆและคนรู้จักที่นั่นหลายคนมากๆ
ทั้งๆที่อยู่ไทยไม่เคยเจอกัน พึ่งรู้ว่ามีคนมาเซี่ยงไฮ้เยอะขนาดนี้ เนื่องจากนั่งแท็กซี่ไปกับเพื่อน
เลยเอา Cardigan ตัวเดิมมาคลุม เพื่อให้ดูมิดชิดมากขึ้น ไม่น่าเกลียดจนเกินไป
นั่นเอง มาถึงได้ 2 คืน ก็มี Thai Night ซะแล้ว แถมเจอเพื่อนๆและคนรู้จักที่นั่นหลายคนมากๆ
ทั้งๆที่อยู่ไทยไม่เคยเจอกัน พึ่งรู้ว่ามีคนมาเซี่ยงไฮ้เยอะขนาดนี้ เนื่องจากนั่งแท็กซี่ไปกับเพื่อน
เลยเอา Cardigan ตัวเดิมมาคลุม เพื่อให้ดูมิดชิดมากขึ้น ไม่น่าเกลียดจนเกินไป
อันนี้คือรูปชุดเต็มๆ ใส่สีส้มสดๆ ก็เป็นอีกไอเดียสำหรับคนผิวขาว-เหลือง หรือผิวปกติ
เพราะจะช่วยขับผิวให้ดูขาวมากขึ้น ส่วนผมของออน ก็ม้วนออกปกติ แล้วหยิบผมสองปอย
จากสองข้าง ม้วนๆๆ แล้วไปเห็นไว้ข้างหลัง เป็นคล้ายๆลูกเล่นเล็กๆ
เพราะจะช่วยขับผิวให้ดูขาวมากขึ้น ส่วนผมของออน ก็ม้วนออกปกติ แล้วหยิบผมสองปอย
จากสองข้าง ม้วนๆๆ แล้วไปเห็นไว้ข้างหลัง เป็นคล้ายๆลูกเล่นเล็กๆ
เห็นผมจากด้านข้างเล็กๆ และชุดเต็มๆ
ปิดท้ายไปด้วยทรงผมอีกทรง ทรงนี้คล้ายๆกับทรงอื่นๆที่ออนทำคือม้วนผม
แล้วใช้กิ๊บติดให้ผมมารวมอยู่ด้านเดียวกัน โดยไม่ต้องใช้ยางรัดผมเลย แล้วก็ติดเครื่องประดับ
เล็กๆน้อยๆ แต่คราวนี้ลองถักเปียก่อน แล้วค่อยรวบผมมาทีเดียว ลองทำมั่วๆ ก็ออกมาได้ไม่แย่
เหมือนกัน ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้กิ๊บดำทั้งหมด 5 ตัว ไม่ต้องใช้ยางรัดผม และทำไม่เกิน 10 นาที
ไว้วันหลังจะทำเป็น Hair tutorial ให้ดูกันค่ะ