สวัสดีค่าา
มาเจอกับออนอีกแล้วนะคะ ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่แล้ว ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหน เลยรีบหาเวลา
มาเขียน มาปั่นบล็อกให้สาวๆอ่านกันก่อนที่ทุกคนจะหนีไปเที่ยวกันซะหมด บล็อกที่
ออนจะเขียนในวันนี้ไม่ได้เหมือนกับบล็อกอื่นๆที่ออนเขียนนะคะ เพราะไม่มีเกี่ยวกับ
ความสวยความงามเท่าไหร่ แต่จะมีสาระนั่นเอง… ฟังไม่ผิดค่ะ มีสาระจริงๆ ฮ่าๆ
ซึ่งบล็อกที่จะเขียนวันนี้จะเป็นเกี่ยวกับการไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์ค่ะ
Hello all! It’s me again. Just so you know that this blog isn’t a typical blog posts
I usually do because it has nothing related to beauty, lifestyle or fine dining.
Guess what it is? .. It’s gonna be about studying abroad in New Zealand.
หลายๆคนอาจจะงงว่าออนเคยเรียนที่ออสเตรเลียไม่ใช่หรอ ทำไมถึงมาเขียน
ของนิวซีแลนด์หละ.. จริงๆแล้วออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ใกล้กัน มีความ
คล้ายกันหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะด้านภาษา วัฒนธรรม ธรรมชาติ ผู้คน ภาษาต่างๆ
Well, first of all, during my high school, I went studying abroad in Australia.
Australia is quite similar to New Zealand, in a way of its nature, people and
culture and these 2 countries are not far from each other as well.
ซึ่งเหตุผลที่ครอบครัวออนส่งออนไปเรียนที่ออสเตรเลียเพราะที่บ้านอยากให้พูด
ภาษาอังกฤษได้เก่งๆ พูดได้สำเนียง ไม่ใช่รู้แต่ไวยากรณ์ ท่องจำ แต่ไม่สามารถ
นำมาพูด นำมาใช้ได้ในชีวิตจริง รวมถึงเปิดประสบการณ์ เรียนรู้ชีวิตใหม่ๆใน
ต่างบ้านต่างเมือง ดังนั้นเมืองที่จะไปจึงต้องเป็นเมืองที่ปลอดภัย .. และนี่คือจุดเริ่มต้น
ของการไปเรียนต่อของออนค่ะ
The reason why I was sent to Australia was because my parents wanted
me to be able to speak English fluently and experience new things
in a good environment country. So, this is the beginning of my story.
ออนไปเรียนออสเตรเลียมาประมาณ 3 ปี ช่วง year 10 – year 12
แต่ก่อนหน้าที่จะไปเรียนจริงๆ ออนก็มีการไปเรียน summer course มา
ประมาณ 3 ปี รวมเวลาเรียน 6 เดือน .. บอกเลยว่าชีวิตที่โน่น กับที่ไทยนี่ต่าง
กันโดยสิ้นเชิง คือทุกอย่างๆจริงๆไม่ว่าจะภาษา วัฒนธรรม การใช้ชีวิต
ความคิดความอ่าน ผู้คน
I was sent to Australia for 3 years from year 10 untill year 12.
I would say that my life there were totally and completely different from my
life in Bangkok. Everything was just different.. the people, culture, language
and so on.
และช่วงนั้นออนก็มีเพื่อนอยู่ที่นิวซีแลนด์เยอะมากก ซึ่งคนจะชอบแซวกันว่าเป็น
“ดินแดนกีวี่ หรือคนกีวี่” จากที่คุยกับเพื่อน เพื่อนก็จะเล่าให้ฟังถึงชีวิตที่โน่น ซึ่งฟังดูแล้ว
ไม่ต่างจากที่ออสเตรเลียเท่าไหร่ แต่ประโยคนึงที่เพื่อนออนพูดเสมอ และออนจำแม่นเลยคือ
“ถ้าอยากจะเรียน อยากจะหัดผู้ภาษาอังกฤษ..ต้องมาเรียนที่นิวซีแลนด์”
เพราะเพื่อนออนบอกว่านิวซีแลนด์ยังไม่ใช่ประเทศที่เปิดมาก ยังมีความเป็นธรรมชาติ
ผู้คนใจดี มีมิตรสัมพันธ์ ไม่ใช่เมืองที่มีผับ บาร์ ตึกสูงๆเยอะเท่าไหร่ ดังนั้นถ้าหากไปเรียน
จะดีมาก เพราะทำให้เราสามารถตั้งใจเรียนได้เต็มที่ อารมณ์เหมือนกับว่าสิ่งยั่วยุมันน้อย
กว่าที่อื่นๆ
I also have a lot of friends who studied in New Zealand before and I
call them my “Kiwi mates”. From what I heard from my friends, this is what
they always said: “if you want to speak English, then come to New Zealand”
The reason why they say so is because New Zealand is a great
country for studying abroad. The country is very quiet and safe and peaceful there.
ซึ่งออนก็คิดเหมือนกันว่าออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ยังค่อนข้างเงียบ ปลอดภัยกว่า
ประเทศอื่นๆ ผู้คนไม่พลุกพล่าน คือใช้ชีวิตสบายๆช้าๆได้ หมดห่วงสำหรับผู้ใหญ่ด้วย
Therefore, when people go to
New Zealand to study, they will be able to concentrate on studying and are
able to learn English at the same time. I believe Aussie and Kiwis are about
the same, they are friendly and helpful. This is what good about them.
จากประสบการณ์ที่เรียนที่ออสเตรเลียมา 3 ปี ไม่รวมถึงประเทศอื่นๆ..
ออนพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าชีวิตการเรียนต่อต่างประเทศให้อะไรกับเรา มากกว่าที่
เราคิด และเป็นประสบการณ์ที่หาไม่สามารถหาได้ในประเทศของเราเอง การเรียนต่อ
ทำให้ออนมองเห็นอะไรใหม่ๆ ได้ลองประสบการณ์ใหม่ๆ และเรียนรู้การใช้ชีวิตใหม่ๆ
As I spent 3 years studying abroad, I would say that studying abroad
give you more than what you expect and it’s the experience you cannot
find in your home country. I see new things, I experience new life, I
think differently and I learn how to live my life.
ข้อดึของการเรียนต่อที่นิวซีแลนด์มีอะไรบ้าง?
เป็นประเทศที่ดี ปลอดภัย เหมาะสำหรับการเรียนต่อ รวมถึงการเรียนภาษาอังกฤษ
ที่สำคัญไม่ไกลจากไทยด้วย นั่งเครื่องบิน 9 ชั่วโมงก็ถึง ผู้คนใจดี มีน้ำใจ นอกจากนี้
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆยังสวยด้วย
So, what’s good about studying in New Zealand?
– Good and safe environment
– Good for learning English and studying abroad
– Not so far from Thailand (about 9 hours flight)
– Friendly and helpful people
– Real life experience with native English speakers
– Many beautiful natural places to visit
มาดูประสบการณ์ต่างๆของนักเรียนที่ไปศึกษาต่อที่นิวซีแลนด์กันได้ค่ะ
อ่านเรื่องราวของพวกเค้าได้จากลิ้งค์ด้านล่างเลย
From Hannah, 22 from Vietnam
เรื่องของ Hannah นี่บอกเลยว่ามีหลายอย่างที่เหมือนกับออนมาก
เพราะ Hannah กับออนเป็นคนเอเชียเหมือนกัน และภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่
ดังนั้นการที่ไปศึกษาต่อ ทำให้เราค้นพบอะไรใหม่ๆหลายๆอย่างแบบที่เรา
ไม่คาดคิด
We have so many things in common..
We are Asian and English is our second language. However, we went
studying abroad and we discovered many things we never knew about it before.
สำหรับใครที่อยากหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถคลิกลิ้งค์ด้านล่างได้เลยค่ะ
A lot of you might wonder where to get information about studying in
New Zealand, please visit this link below
and you will find everything you need to know about studying in New Zealand
or life in The Kiwi Land.
ก่อนจบกันไป..ขอบอกเลยว่า “ถ้าหากคุณมีโอกาสที่จะได้ไปเรียนต่อ อย่าปล่อยให้โอกาสนั้น
หลุดมือไปเด็ดขาด จงคว้าโอกาสนั้นไว้ เพราะมีคนอีกมากมายที่ฝันอยากจะได้โอกาสนี้ แต่
ความฝันของพวกเค้ากลับไม่เคยเป็นจริง”
I would say, “if you ever have a chance to go studying abroad, just don’t
let that chance go..grab it and do it! Because there are many people who dream
about studying abroad and their dreams never came true”.
ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้เลยค่ะ
More information, please visit
Day in the Life in NZ
https://www.youtube.com/watch?v=HM1Yhf70Sws
จบกันไปก่อนนะคะ
เจอกันใหม่คราวหน้า
ขอบคุณค่า
Thank you so much for reading
Study hard!