สวัสดีค่ะ
วันนี้กลับมาเขียนบล็อกเกี่ยวกับ Lifestyle ท่องเที่ยวให้อ่านกันอีกแล้ว
หลังจากที่ไม่ได้เขียนมาซักพัก คราวนี้ออนตั้งใจจะเขียนตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่ก็เลื่อนมาจน
กลางปี นั่นก็คือ Singapore trip ของออนนั่นเอง
ออนไปสิงคโปร์มาเมื่อวันที่ 21-23 มกราคม ที่ผ่านมาค่ะ ไปกับพี่สาว (ลูกพี่ลูกน้อง)
เพราะเป็นลูกคนเดียว แล้วเกิดอารมณ์อยากไปเที่ยวกับพี่บ้าง ไม่เคยไปกันเองแบบไม่มี
ผู้ใหญ่ไปเลย เลยตัดสินใจไป ซึ่งพี่สาวออนทำงานแล้ว ดังนั้นหน้าที่ในการหาข้อมูล วางแพลน
จัดการทุกอย่าง ออนจะเป็นคนจัดการเอง
Hi guys
It’s me again. I just got back from my 3 days 2 nights trip in Singapore
with my cousin. I randomly wanted to go somewhere out of the country
with her, so I just made a plan and boommmm.. Singapore is our destination!
เริ่มแรก..
ออนก็เปิดอินเตอร์เน็ต Google หาพวกแพ๊คเกจทัวร์ต่างๆ ซึ่งออนตั้งใจไว้ว่า ออนต้องการ
ซื้อแบบ “ตั๋วเครื่องบิน+ที่พัก 3 วัน 2 คืน + รถรับส่งสนามบิน และตั๋วเข้า Universal Studio”
เพราะที่เหลือออนจะเที่ยวเอง ไม่ต้องการซื้อทัวร์แบบที่เค้าพาไปตามสถานที่ต่างๆด้วย ออนก็
เปิดหลายเว็บมาก เช็คราคา เช็คสถานที่ทุกอย่าง ใช้เวลาประมาณ 3 วันในการรอคำตอบจาก
บริษัททัวร์ หรือเว็บต่างๆให้ตอบกลับมา จนกระทั่งออนตัดสินใจที่จะซื้อตั๋วแยกเอง เพราะส่วนมาก
ถ้าเป็นตั๋วเครื่องบินแบบประหยัด (พวก Low cost airlines) บริษัททัวร์จะไม่ค่อยรับจอง
ดังนั้นออนเลยตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินแยกเองของ Jet Star ตอนนั้นได้เรทตั๋วเครื่องบิน
ไป-กลับอยู่ที่คนละประมาณ 7,500 บาท ( สองคนก็ 15,000 บาท) ซึ่งออนทำการจองผ่าน
อินเตอร์เน็ต และหักเงินผ่านบัตรเครดิตไป หลังจากนั้นออนก็มาลงเอยกับบริษัท
“World Surprise Tour” เพราะทางเจ้าหน้าที่บริการแบบรวดเร็ว ทันใจ และให้ Deal ที่ดีมาก
คือจ่ายคนละ 7,000 บาท ได้พักที่ V Lavender (ประมาณ 4 ดาว เป็นโรงแรมใหม่
ติดอยู่กับ Metro Line 2 อยู่ปลายสาย Orchard Road เดินทางสะดวก มีอาหารขาย)
เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน รวมอาหารเช้า และรวมรถตู้รับส่งสนามบินทั้งขาไปและกลับ
นอกจากนี้ก็รวมตั๋วแบบ One-Day Pass เข้า Universal Studio Singapore ด้วย
สรุปแล้วรวมทั้งหมด (ค่าตั๋ว ที่พัก ฯลฯ) จ่ายคนละประมาณ 15,000 บาท
So I was browsing through the internet to find the best deal I could get,
made a payment and pack my stuff.
—————————————————————————-
ออนเลือกไฟลท์บินเช้า เพื่อที่จะได้มีเวลาเที่ยวทั้งวัน รู้สึกไฟลท์เช้าจะบินช่วง 7-8 โมง
พอถึงสนามบิน Shangi ที่สิงคโปร์ ก็มีรถตู้มารับ และไปส่งที่ V Lavender ออนกับพี่สาว
ก็ใช้ Voucher ที่ทางบริษัททัวร์ให้มายื่นให้กับทางโรงแรม เพื่อเช็คอิน เข้าห้อง นั่งพักซัก 10 นาที
คุณพ่อของพี่สาว ซึ่งเป็นคุณลุงของออน ก็โทรสายตรงมาจากไทย ว่าให้ไปทานข้าวมันไก่ร้านนี้
ให้ได้ อยู่ที่ Mandarin Orchard แต่คุณลุงจำชื่อร้านไม่ได้ แต่เน้นว่าอร่อยมาก ต้องไปให้ได้ ออนกับ
พี่สาวก็ไปจนถึงโรงแรม Meritus Mandarin และเดินขึ้นไปเรื่อยๆ เริ่มงงเรื่อยๆ เพราะตอนแรกคิดว่า
จะเป็นพวกข้าวมันไก่แบบริมถนน เจ้าเก่าที่ขายตามซอก ปรากฏว่าทำไมโรงแรมมันดูดีกว่าปกติ
จนกระทั่งมาจบที่ร้าน Chatter Box เลยโทรไปถามคุณลุง สรุปว่าเป็นร้านเดียวกัน
ออนกับพี่สาวยังแซวกันระหว่างเดินหาร้านว่า หิวมากแล้ว ข้าวมันไก่อะไร ทำไมหายากจัง
เดี๋ยวไม่ใช่มาเจอข้าวมันไก่จานละเกือบพันบาทนะ ..
We got to Changi Airport around 11am then the airport shuttle
picked us up and dropped us off at V Lavender . After we checked in,
we decided to go for a “Kao Mun Gai” lunch at Chatter Box according to
the recommendation from my uncle.
และแล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ .. ข้าวมันไก่เซ็ตละ $27 หรือประมาณ 675 บาท
เป็นข้าวมันไก่ที่แพงที่สุดในชีวิตที่เคยทานมา แต่จานก็ใหญ่พอสมควร ที่สำคัญเนื้อไก่นิ่มมาก
นิ่มแบบละลายในปากสุดๆ น้ำซอสที่มากับเนื้อไก่ก็อร่อย ข้าวก็อร่อย อร่อยไปหมดทุกอย่างจริงๆ
เรียกว่าต้องค่อยๆเคี้ยวกันเลยทีเดียว จะได้คุ้มกับราคาหน่อย
I would say, this is the best Kao Mun Gai I have had in my life.
It’s just so good and too good. Melt in my mouth..hmmm mouth watering!
พอทานเสร็จแล้วก็เช็คบิลออกมาตามที่เห็นค่ะ ค่าเงิน SGD จะ x 25 ค่ะ
ถือว่าเป็นข้าวมันไก่มื้อที่จะจำไม่ลืมเลยทีเดียว
หากใครสนใจ สามารถไปทานได้ที่โรงแรม Meritus Mandarin อยู่บนถนน
Orchard Road ชั้น 5 ค่ะ ชื่อร้าน Chatter Box เลย
หลังจากทานอิ่มแล้ว ก็ไปเดินย่อยอาหาร ช็อปปิ้งกับพี่สาวที่ถนน Orchard
ร้านที่ไม่พลาดแน่นอนคือ H&M นั่นเอง เพราะตอนนั้นที่ไทยยังไม่มี H&M มาเปิดค่ะ ดังนั้นเวลาออนอยู่
เซี่ยงไฮ้ หรืออยู่สิงคโปร์เลยไม่พลาดที่จะเข้าไปเสียเงินในร้านนี้
Here we come at Orchard road.
Time for some H&M shopping!
ส่วนตัวแล้วชอบซื้อของ H&M เพราะว่าเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างมี Variety เยอะ เหมือนกับว่าเข้าไป
ไม่รู้จะใส่อะไร ก็สามารถเดินเลือกของ ดูของไปได้เรื่อยๆ มีตั้งแต่เสื้อยืด ขาสั้น สบายๆ ชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ
ไปจนกระทั่งชุดทำงาน ชุดสำหรับงานกลางคืน ฯลฯ ที่สำคัญราคากลางๆ ไม่ถึงกับสูงมาก และผ้าใส่สบาย
I like to shop at H&M because the there are vareties of products to choose
from and the prices are affordable.
ออนมีเพื่อนคนไทยอยู่ที่นี่พอดี เลยได้นัดมาเจอกันด้วย แต่ได้เจอแค่แป๊บเดียว เพราะว่าเพื่อนออนจะ
ขึ้นเครื่องกลับไทยคืนนั้นพอดี เลยได้มาเดินช็อปปิ้ง ทานไอติมด้วยกันนิดหน่อย หลังจากซื้อของเสร็จ
เรียบร้อยก็เดินทางกลับที่พัก พักผ่อนเล็กน้อย เปลี่ยนเสื้อผ้า และเติมเครื่องสำอาง สำหรับไปทานมื้อค่ำ
Resting before our dinner
สำหรับมื้อค่ำวันนี้ออนเลือกทานที่ Lawry’s นั่นเอง ถ้าใครชอบทานเนื้อ ทานสเต็ก หรือทาน Ribs
คงจะไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้แน่ๆ เพราะว่าอร่อยมาก และมีสาขาอยู่หลายประเทศเลย ออนเป็นคนที่
ชอบทานเนื้อแบบ Medium rare ชอบแบบว่าขาดไม่ได้เลย ดังนั้นร้านนี้จึงเป็นร้านที่ออนไม่มาไม่ได้
Lawry’s..
Oh my goshhhhh been craving for their beef!
เนื่องจากอยากทานมาก เป็นเหมือนจุดมุ่งหมายสำคัญในทริปนี้เลย ออนเลยตัดสินใจจองโต๊ะออนไลน์
ผ่านทางเว็บของ http://www.lawrys.com.sg โดยตรง ออนจองล่วงหน้าไว้ประมาณ 3-4 วัน ซึ่งหลังจาก
จองโต๊ะผ่านหน้าเว็บแล้ว ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากนั้น จะมีอีเมล์คอนเฟิร์มกลับมาว่าได้โต๊ะที่ได้จองไว้
ถูกคอนเฟิร์มไว้เรียบร้อยแล้ว ออนจองช่วงเวลาประมาณทุ่มครึ่ง Request ขอโต๊ะติดริมหน้าต่างไป
จะได้เห็นวิวสวยๆ
I made a booking online as I wanted to come here so bad.
And we got our seats next to the window with nice view.
บรรยากาศในร้านเป็นแบบนี้ค่ะ
We came pretty early ha!
หลังจากสั่งอาหารไปแล้ว ทางร้านจะมีสลัดมาให้ทานระหว่างรอ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็น Caesar Salad ค่ะ
จะมีพนักงานใส่ชุดยูนิฟอร์มแบบนี้มาปรุงสลัดให้สดๆเลย ปรุงไปเต้นไปด้วย
Our caesar salad is coming.
สำหรับออน รสชาติสลัดเฉยๆมาก ที่เมืองไทยราคาถูกกว่านี้ หรือแม้กระทั่งทำเองที่บ้านยังอร่อยกว่า
ออนสั่งเป็นน้ำแร่ ส่วนพี่สาวออนสั่งไวน์ขาว กับน้ำแร่มาทาน
The salad is just so so.. but I love how the waitresses danced
before serving the dish.
ระหว่างรออาหารเลยให้พนักงานที่ร้านถ่ายรูปให้ พนักงานที่นี่บริการดี ยิ่งพนักงานที่เป็นหัวหน้า
แล้วด้วย ยิ่งบริการดีสุดๆ ถ่ายรูปให้ตลอดเวลา
Some pictures together
สำหรับใครที่สั่งพวก Ribs หรือ Cuts ต่างๆ จะมีพนักงานเข็นรถเข็นมาทำให้สดๆเลย
Our meats are about to be ready..
ทะ ด้าาาาาา …. มาแล้ว ออนสั่งเป็น The English Cut ไป (200g) พร้อมกับซอสไวน์แดง และมันบด
เป็นสองสิ่งที่ชอบทานที่สุดในโลกกกกกกกกกกก จานนี้ราคา $78 ( 1950 บาท โดยประมาณ) เนื้อนุ่มมาก
ซึ่วเวลาออนสั่ง ออนจะเน้นว่า Medium-Rare แต่ขอหนักไปทาง Rare หน่อย ชอบเลือดๆนิดนึง
Tadaaaaa …. here’s The English Cut with red wine sauce and mashed potatoes.
Oh myyyyy…….. sooooo gooooood tooooo goooooodd
สำหรับพี่สาวออนสั่งเป็นสเต็กธรรมดา จำไม่ได้ว่าสั่งแบบไหนไป
เป็นก้อนเล็กๆไม่ใหญ่มาก และพี่สาวออนก็ทานไปได้ครึ่งเดียว ที่เหลือทานไม่หมด
และออนก็รับหน้าที่ทานเนื้อต่อให้หมดเอง เนื้อนุ่ม และนิ่มในแบบสเต็กเลย ออนเอา
มาทานกับมันบดในจานของออน อร่อยสุดๆ
My cousin’s one.
อยู่ดีๆพี่สาวออนก็อยากทานอะไรพวก Seafood ขึ้นมา เลยตัดสินใจสั่ง Oysters มา
สั่งมาแบบครึ่งโหล คือ 6 ตัว ตัวใหญ่เลยทีเดียว ที่ไทยยังหาตัวใหญ่ๆยากเลย ถ้าไม่ได้ไป
Oyster Bar ทานกันคนละ 3 ตัว มีความสุขกันเลยทีเดียว
The oysters here are fresh and gigantic.
Yummmm
ปิดท้ายด้วย Dessert นั่นเอง ออนสั่งเป็น Pecan Nut Brownie เป็นบราวนี้ เสิร์ฟพร้อมกับไอติมรส
วานิลลาของ Haagen-Dasz พร้อมกับซอสและวิปครีม ทานกันหมดเกลี้ยงอร่อยมาก
อาหารมื้อนี้เรียกว่าอิ่มกาย อิ่มใจสุดๆ ใครที่ชอบทานเนื้อ แนะนำร้านนี้ค่ะ พลาดไม่ได้เลย
ในเรื่องราคาอาจจะค่อนข้างสูง เพราะมื้อนี้รวมทั้งหมดประมาณเกือบ 7,000 บาท ดังนั้นนานๆ
ได้กินที ถึงจะไหว ถ้ามีโอกาสไปสิงคโปร์อีก ก็จะไม่พลาดแน่นอน
สำหรับใครที่อยากมาทาน Lawry’s ที่นี่ ก็อยู่ที่เดียว ตึกเดียวกันกับ Chatter Box เลยค่ะ
Mandarin Gallery บน Orchard Road
And our Day 1 Trip has come to an end.
Please stay tuned for our Day 2 and Day 3 Trip to enjoy more
about Singapore.
Disclaimer : This is a non-sponsored post. All opinions are my own.
——————————————————————————
หลังจากนั้นก็เดินช็อปปิ้ง เที่ยวเล่น ย่อยอาหาร ก่อนจะขึ้นแท็กซี่กลับโรงแรม พักผ่อน
เตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้นที่จะไป Singapore Universal, Maison Island และ Helipad
ร้านอาหาร Rooftop ตรง Clark Quay
ติดตามอ่าน
Singapore Trip Day 2
Singapore Trip Day 3
ขอบคุณค่ะ