Review : แปรงแต่งหน้าที่ใช้ M.A.C/Holika/Beautilicious/Etude

สวัสดีค่ะสาวๆ

วันนี้กลับมา Review ให้ดูกันอีกแล้วนะคะ วันนี้จะเป็นการรีวิวแปรงแต่งหน้า
ทั้งหมดที่ออนใช้อยู่ ณ ตอนนี้ให้ดูกันค่ะ ว่ามีตัวไหนบ้าง ใช้อะไรยังไง ราคาเท่าไหร่บ้าง
ส่วนสถานที่ซื้อ .. google เอาเลยนะคะ ไม่ขอตอบอะไรเกี่ยวกับสถานที่ซื้อทั้งนั้นค่ะ

1. ก่อนจะซื้อแปรง .. ควรจะ?

คิดก่อนค่ะว่าเรามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน และอะไรจำเป็นกับเรา
เช่น ในทุกๆวัน เราแต่งหน้าแบบไหน ควรใช้แปรงอะไรบ้าง อย่างออนก็ลิสท์มาได้เลย
ว่าจะต้องมีแปรง blend (แปรงขนเม่น) ไว้สำหรับ blend เบสหรือบีบีครีม,
แปรงปัดแป้ง, แปรงบลัชออน, แปรงเขียนคิ้ว, แปรงปัดมาสคาร่าคิ้ว, แปรง blend
สำหรับตา

ดังนั้นออนก็จะได้เลือกซื้อได้ค่ะ ไม่งั้นถ้าเราไปถึงร้านแล้วซื้อมานั่นนี่ บางทีก็ไม่จำเป็น
สำหรับเรา เยอะเกิน ไม่ได้ใช้อีก เสียเงินปล่าวๆค่ะ และถ้าใครไม่รู้ว่าควรใช้แบบไหน
ลองถามคนที่เก่งเรื่องการแต่งหน้า (หรือช่างแต่งหน้าโดยตรง ไม่งั้นก็ร้านขายก็ได้ค่ะ)
ว่าถ้าวันๆนึง เราแต่งหน้าประมาณนี้ เราควรจะมีแปรงอันไหนไว้ในครอบครองบ้าง

2. จำเป็นแค่ไหน? ราคา? คุณภาพ?

เราควรคิดก่อนว่าการที่เราแต่งหน้าในทุกๆวันเนี่ย เราแต่งแบบเพื่อตัวเราเอง
แต่งจริงจังเป็นมืออาชีพ หรือยังไง เพื่อที่เราจะได้เลือกถูกได้ว่า เราควรจะเสียเงิน
ไปกับเรื่องตรงนี้มากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าเราไม่ได้แต่งหน้าบ่อย ไม่ได้แต่งมืออาชีพ
แต่งเล่นๆ เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปซื้อเซ็ตแปรงเป็นหลายๆพัน หรือแปรงแท่งละ
สองสามพันใช้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับกระเป๋าของแต่ละคนอีก เพราะถ้าบางคนไม่
เดือดร้อน ก็แล้วแต่เลยค่ะ ได้หมดเลย

สำหรับออน ออนแต่งไม่ได้มืออาชีพขนาดนั้น ทำ How to เล่นสนุกๆ ก็เลยเลือก
ราคากลางๆ มีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันผสมๆกันไป คุณภาพเอาพอดีๆ ไม่ต้องถึงกับนิ่มมากกก
แต่นิ่มพอดีๆ ไม่บาดหน้าเราก็พอ ดังนั้นหวังว่า 2 ข้อที่ออนเขียนมา น่าจะพอแนะเกี่ยวกับ
สาวๆที่กำลังมองหาเซ็ทแปรงอยู่นะคะ เผื่อจะช่วยให้การตัดสินใจให้ง่ายขึ้น หรือยากขึ้นก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าๆ

3. แปรงขนเม่น? คืออะไร? ไม่บาดหน้าหรอ?

มีหลายๆคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับแปรงขนเม่นที่ออนรีวิวไว้ เพราะเข้าใจว่าทำจากขนเม่น
และถามออนว่าไม่บาดหน้าหรอ จริงๆแล้วจะบอกว่ามันไม่ได้ทำจากขนของตัวเม่นค่ะ
เพราะถ้าทำจากขนของตัวเม่น ป่านนี้หน้าออนคงเลือดอาบน้ำ แต่สาเหตุที่ออนเรียกแปรง
ขนเม่นก็เพราะว่ามันแหลมๆ ชี้ๆขึ้นเหมือนขนเม่นนั่นเอง

1. เริ่มกันด้วยเซ็ตแปรงขนาดเล็กในซองสีชมพู และแปรงสีชมพู จาก Beautilicious

– Beautilicious Mini Traveling Brush Set –
จำนวน 5 ชิ้น มาพร้อมกับซองสีชมพูซีทรู
ราคา 280 บาท ( ราคาในอินเตอร์เน็ต )

มาในซองสีชมพูแบบนี้นะคะ ใน 1 ซองมีทั้งหมด 5 ชิ้น

โดยแต่ละชิ้นจะยาวประมาณฝ่ามือนึงค่ะ ( อธิบายไม่ถูก คือยาวประมาณอุ้งมือแต่จะยาว
เกินอุ้งมือออกมาประมาณเกือบๆ 1 นิ้วค่ะ ) แปรงเป็นขนสังเคราะห์แต่นิ่มมากกก
ไม่แพ้แปรงขนสัตว์เลย ที่สำคัญสาวๆที่ชอบสีชมพู จะต้องชอบเหมือนกันแน่ๆ เพราะว่า
สีชมพูหวานแหววมาก ทั้งด้ามแปรงและขนแปรง มาดูกันดีกว่าว่ามีแปรงอะไรบ้าง
( ไล่จากซ้ายไปขวานะคะ )

แปรงปัดแปร้ง/แปรงปัดบลัชออน
แปรงทาอายแชโดว์
แปรงทาอายแชโดว์แบบฟองน้ำ
แปรงสำหรับปัดขนคิ้ว+หวีขนคิ้ว
แปรงหัวตัดใช้สำหรับเขียนอายแชโดว์ ( ออนใช้ตัวนี้เขียนคิ้วค่ะ )

ซึ่งเซ็ตนี้เป็นเซ็ตเล็ก จะไม่เหมาะกับการใช้ในทุกๆวัน แต่อาจจะสะดวกสำหรับคนที่ต้องการ
เซ็ทแปรงที่แต่งได้ครบ ไว้สำหรับเดินทาง เพราะจะไม่กินเนื้อที่

ปล. ตัวนี้ออนได้มาจากงานมีทติ้งของ Beautilicious ค่ะ
เหตุผลที่เขียนไว้ก็เพราะไม่อยากให้คนมามองว่าตัวไหนซื้อ ตัวไหนได้ฟรีนั่นโน่นนี่นู่น
เลยบอกไว้เลยดีกว่า แต่การรีวิว ออนเขียนทั้งหมดจากความรู้สึกที่ใช้จริง ดังนั้นสบายใจได้ค่ะ

2. เซ็ทที่สองเป็นเซ็ทใหญ่จาก Beautilicious ค่ะ เซ็ทนี้จะคล้ายๆเซ็ทเล็ก
แต่ใส่ซองกำมะหยี่สีดำมาให้ ทำให้การเก็บรักษาง่ายขึ้น และเวลาพกพาไม่ต้องกลัวว่าถุงจะขาด
หรืออะไร ดังนั้นค่อนข้างสะดวกค่ะ

– Beautilicious 6 Brushy Business –
จำนวน 6 ชิ้น มาพร้อมซองใส่แปรงกำมะหยี่สีดำ
ราคา 560 บาท ( ราคาในอินเตอร์เน็ต )

หน้าตาซองกำมะหยี่เป็นแบบนี้ จริงๆไม่มีขุยๆขาวๆ แต่ออนไม่ค่อยรักษา + ใช้มานาน
เลยเน่าๆเป็นแบบนี้ แบรนด์นี้เอาใจคนชอบสีชมพูดำจริงๆ

ด้านในจะเป็นใส่แปรงเป็นช่องๆแบบในรูปเลยค่ะ ขนแปรงเป็นขนสังเคราะห์ นิ่ม ไม่บาดหน้า

ด้ามสีชมพูหวานแหวว พร้อมโลโก้แบรนด์

ในรุปนี้ลืมถ่ายให้ติดแปรงอันใหญ่ของ Beautilicious มาด้วย
มาดูกันดีกว่าว่า 6 ชิ้นนี้ มีอะไรกันบ้าง ( ไล่จากซ้ายสุดมาขวาสุด )

แปรงปัดแป้ง/แปรงบลัชออน ( ถ่ายไม่ติด )
แปรงหัวตัดเฉียง ( ออนใช้จิ้มอายแชโดว์เขียนคิ้วทุกวัน )
แปรงอายแชโดว์ ( ใช้จิ้มอายแชโดว์แล้วแปะๆ ตาเฉพาะจุด )
แปรงอายแชโดว์แบบฟองน้ำ ( ตัวนี้ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะถนัดใช้นิ้วเกลี่ยอายแชโดว์มากกว่า )
แปรงสำหรับทาลิปสติก ( ตัวนี้ไม่เคยใช้เลย ยังอยู่ในปลอกพลาสติก เพราะชอบทาลิปจากแท่งแล้วใช้มือกดๆ )
แปรงสำหรับขนคิ้ว ( ใช้หวีและใช้เกลี่ยหลังจากเขียนคิ้วเสร็จ จะทำให้ขนคิ้วเรียงเส้นสวยเป็นธรรมชาติ )

เซ็ตแปรงตัวนี้ค่อนข้างครบสำหรับออนเลย แต่ข้อเสียคือด้ามแปรงค่อนข้างเล็ก
ทำให้เวลาจับแล้วรู้สึกก๊องแก๊งเล็กน้อย แต่ถ้าถามถึงความคุ้มค่า โดยวัดจากคุณภาพและราคา
ถือว่าผ่านมากๆ เพราะออนไม่ใช่ช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ใช้แปรงชนนิ่มขนาดนี้ ในราคา
เซ็ทละไม่ถึงพันถือว่าเวิร์ก และประหยัดเงินมากๆ

ปล. เซ็ตแปรงเซ็ตนี้ออนซื้อเองนะคะ ซื้อมานานแล้ว ก่อนที่จะขาย Beautilicious
และปัจจุบันไม่ได้ขายแล้ว เพราะว่ายุ่ง ไม่มีเวลา กลัวส่งของให้ลูกค้าช้า ไม่อยากให้ลูกค้ารอ ใจเขาใจเรา

3. ตามมาที่แปรงสำหรับเจลอายไลเนอร์ จาก Etude House ออนมีทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่
โดยรุ่นเก่าจะด้ามจะสีชมพู และรุ่นใหม่ด้ามจะสีดำ หลังจากที่ใช้แล้ว รู้สึกเลยค่ะว่ารุ่นใหม่ดีกว่า
เพราะว่ารุ่นเก่าหัวแปรงจะหนากว่า ใหญ่กว่า ทำให้เวลาเขียน เส้นจะใหญ่กว่ากว่า แต่รุ่นใหม่
หัวแปรงจะเล็กกว่า แล้วเป็นหัวตัด ทำให้เขียนเส้นได้คม บังคับทิศทางของเส้นได้มากกว่า ว่าจะให้หนา-บาง คม-มน

ส่วนเรื่องราคาออนจำไม่ได้แล้วค่ะ เพราะซื้อนานมากแล้ว ยิ่งรุ่นเก่านี่ซื้อหลายปีมากๆแล้ว
น่าจะตั้งแต่สมัยออนอยู่ออสเตรเลียเลย สมัยอายไลเนอร์รุ่นแรกเพิ่งออก ก็ประมาณออน
อายุ 16 ตอนนี้ก็ 4 ปีแล้ว คุณย่าเป็นคนซื้อเครื่องสำอางส่งไปให้ด้วย เพราะตอนนั้นออน
จะส่งลิสท์เครื่องสำอางที่หาซื้อที่ออสเตรเลียไม่ได้มา แล้วคุณย่าจะจัดการซื้อส่งไปให้
ตอนนั้นซื้อ Kose, Kanebo, Etude เยอะมากกของแถมเยอะมากก ฮ่าๆๆ

ด้านซ้าย = รุ่นใหม่
ด้านขวา = รุ่นเก่า

ในรูปแปรงมันดูลีบๆมันๆ เพราะว่าออนเพิ่งล้างแปรงเองค่ะ ยังเปียกๆอยู่เลย

โลโก้ด้ามสีดำรุ่นใหม่ชัดเจน แต่รุ่นเก่ารู้สึกจะเป็นสีชมพูที่เลือนหายไปหมดแล้ว

4. ตามติดมาด้วย Holika Holika แปรงที่ตอนนี้กำลังฮิตสุดๆ จนถึงขนาดของขาด
เป็นเดือนกันเลยทีเดียว ตัวนี้ออนเห็นต้องคิมซีฟารีวิวไว้คนแรกตอนกลางคืน บวกกับ
ราคาที่ถูกมาก และออนกำลังมองหาแปรงใหม่อยู่ วันรุ่งขึ้นบ่ายเลยรีบไปซื้อเลย
ช่วงนั้นคงยังไม่รู้จักกัน ก็เลยยังมีเหลือ ออนก็ซื้อแปรงสำหรับหน้ามา และแปรงขนเม่น
(
blending brush ) นั่นเอง ซึ่งตอนนี้หลายๆคนตามหากัน
และเหมือนได้ยินว่ากลางมกราคมของถึงจะมา
เพราะเลื่อนมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมแล้ว

– Holika Holika Powder Brush –
ราคา 400 บาท

– Holika Holika Finish Brush – ( แปรงขนเม่น / blending brush )
ราคา 350 บาท

ในรูปไม่ต้องสงสัยว่าทำไมมันดูแปลกๆ เพราะว่าออนลืมถ่ายรูปเต็มๆของรูปนี้ไว้
เลยต้องตัดแปะจากรูปเก่ามา ตัว Powder brush ฟูได้ใจออน เพราะออนชอบแปรง
ปัดหน้าที่ฟูๆใหญ่ๆแบบนี้ ที่สำคัญนิ่ม ไม่บาดหน้า ด้ามจับถนัดมือ แข็งแรง ได้ใจสุดๆ
และ Blending Brush หรือแปรงขนเม่นของออน ที่ตอนนี้ฮิตมาก ก็ได้ใจออนไป
เหมือนกัน เพราะว่าขนแปรงไม่บาดหน้า ใช้แล้วไม่ได้รู้สึกว่าด้อยกว่า M.A.C ที่ราคา
เป็นพันๆ ด้ามจับถนีดมือ ไม่ก๊องแก๊ง มีขนแปรงหลุดมาบ้าง แต่ก็ไม่มาก เพราะ M.A.C ก็หลุดเช่นกัน

ด้ามแปรงมีโลโก้แบรนด์แบบนี้ด้วย

– Holika Holika Pact Brush –
ราคา 65 บาท

แปรงสำหรับมาส์กค่ะ คือแต่ก่อนออนเป็นคนที่ไม่ใส่ใจอะไรตรงนี้เท่าไหร่ เวลาซื้อมาส์ก
ที่เป็นกระปุกมาเนี่ย ก็จะใช้นิ้วควัก มามาส์กหน้าเลย แต่นึกได้ว่าเล็บออนยาว ที่สำคัญ
อาจจะมีเชื้อโรคอุดตันอยู่ตามเล็บรึเปล่า บวกกับช่วงที่ออนทำหน้าตามคลีนิก พนักงานจะ
ใช้แปรงทามาส์กตลอด ออนก็เลยสนใจตัวนี้ เพราะว่าราคาไม่แพง ก็เลยคิดว่าน่าจะลองมาซื้อใช้ดู

หลังจากที่ใช้ก็รู้สึกสบายขึ้น ที่ไม่ต้องเอานิ้วควักมาส์กจากกระปุกอีกต่อไป ช่วยใน
เรื่องความสะอาด ที่สำคัญประหยัดมาส์กด้วย เพราะบางทีเอานิ้วควักแล้วก็มีมาส์กติดตามมือเต็มไปหมด ตัวนี้จะช่วยประหยัดได้เยอะ

4. เซ็ตแปรง M.A.C เป็น Limited Edition ซื้อมาได้หลายเดือนแล้ว เซ็ทนี้มากับซอง
กึ่ง
พลาสติก (แบบแปลกๆ) สีดำ พร้อมเชือกรัด จริงๆไม่ค่อยชอบซองเค้าเท่าไหร่
เพราะไม่ทนทานและดูไม่ค่อยสมราคา แต่ถ้าคิดแค่แปรงก็ถือว่าโอเค

ออนเคยทำเป็น Video Review ไว้นานแล้ว ตอนนั้นยังไม่สบาย เสียงน่ากลัวมากๆ
ตอนนั้นยังชอบ M.A.C แปรงขนเม่นที่สุด เพราะยังไม่เจอตัวเปรียบเทียบ พอเจอตัวเปรียบเทียบเยอะ ตอนนี้เลยเริ่มแอบตกกระป๋องไปแล้ว

[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=HWm_pJCGPaU&feature=player_embedded]

ราคา 3,000 บาท ลด 10%
เหลือ 2,700 บาท

สภาพซองเป็นแบบนี้

เปิดออกมาเป็นแบบนี้ จริงๆมีแปรงคอนซีลเล่อร์อันเล็กด้วยอีกอัน แต่หาไม่เจอ
ไม่รู้ร่วงไปไหน เลยถ่ายมาให้ดูทั้งหมด 3 ชิ้นก่อน

ขนแปรงนิ่ม ใช้ได้ดี ตัวนี้จะเป็นขนาดที่เล็กลงมาหน่อย
เริ่มจากซ้ายสุดมาขวาสุด

แปรงขนเม่น 187SE – ใช้สำหรับเบลนด์ของเหลวพวกรองพื้น เบส บีบีครีม และยัง
ใช้ปัดบลัชออนเกลี่ยบลัชออนได้อีกด้วย เป็นแปรงสารพัดประโยชน์มากๆ

แปรงทารองพื้น 190SE – ตัวนี้ยังไม่เคยใช้ เพราะไม่ค่อยชอบใช้แปรงทารองพื้น
รู้สึกว่ามันเกลี่ยไม่เนียนเท่าแปรงขนเม่น

แปรงไฮไลท์หรือแปรงทำ shading – 168SE – ตัวนี้ก็ยังไม่ใช้ เพราะเห็นสีขาว
สะอาดมาก เลยเก็บไว้ให้ขาวสะอาดต่อไป ฮ่าๆ

เท่าที่ใช้มาถ้าเทียบแปรงขนเม่น M.A.C กับ Holika เชียร์ Holika มากกว่า
เพราะคุณภาพใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากันเลย ราคาถูกกว่าเยอะมากๆ แต่ถ้าสำหรับ
ใครที่ติดแบรนด์ หรือชอบ M.A.C มากๆ ซื้อ ตัว 187 เก็บไว้ก็ไม่เสียหายค่ะ
เพราะว่าก็เป็นแปรงอะไรที่ลงทุนครั้งเดียว แล้วอยู่กับเราตลอด ( นอกซะจากว่าเราทำมันหาย )

5. นึกได้ว่าเคยซื้อกระเป๋าหนังใส่แปรงจาก Napoleon Perdis โดยเฉพาะ
เลยขอมารีวิวให้ดูกันหน่อยดีกว่า ยี่ห้อนี้จะอารมณ์แนวๆ M.A.C ขายเยอะมากที่ออสเตรเลีย
และนิวซีแลนด์ คิดว่าเมกาหรือประเทศอื่นๆน่าจะมีบ้าง แต่คนคงยังไม่รู้จักเท่าไหร่
ส่วนราคาก็ราคาประมาณ M.A.C – Bobbi Brown ค่ะ ออนซื้อกระเป๋าหนัง
อันนี้นานแล้ว ตั้งแต่ไปออสใหม่ๆเลย ก็ประมาณ​ 5 ปีได้แล้ว

ราคาประมาณ​70$ (AUD ก็ประมาณ​ 2,100 บาท)
เพราะเค้ามีกระเป๋าที่ขายพร้อมแปรงแบบเซ็ทเต็ม 22 ชิ้น ราคา 475$ ( 14500 บาทได้ )

เป็นหนังใหญ่ๆกลมๆ พร้อมสายรัดแบบนี้ ดู professional ใช้ได้เลย

ด้านล่างกระเป๋ามีโลโก้ปั้มไว้

ใส่แล้วเป็นแบบนี้ ครบมากๆ

ปิดแบบนี้เวลาม้วนจะทำให้แปรงไม่โดนซึ่งกันและกัน

ด้านข้างมีซิปเล็กๆ ไว้ใส่ของจุกจิก หรืออะไรเล็กๆ

ใจจริงอยากได้รูปถ่ายกับแปรงสวยๆ เป็นอารมณ์กำลังแต่งหน้าอยู่ แล้วถ่าย
แต่ถ่ายออกมาทีไรไม่สวยเลย เลยเอารูปเก่าตอนงานวันเกิดที่ถ่ายกับแปรงมาอวด

วันนี้ขอจบไปก่อนนะคะ
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับสาวๆบ้าง ช่วยให้สาวๆมีไอเดียในการเลือกซื้อแปรง
หรือตัดสินใจได้ง่ายขึ้นบ้าง ยังไงอย่าลืมคอมเม้นท์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ

ขอบคุณมากๆค่ะ