สวัสดีวันเสาร์นะคะทุกคนวันนี้ก็จะกลับมาพร้อมกับ Review อีกแล้ว ซึ่งวันนี้เป็นการรวม
Eyeshadow Palette ทั้ง 4 แบรนด์ที่ออนกำลังชอบและเห่อมากๆ เรียกว่าใช้ทุกวันสลับกัน
ไปมาเลยทีเดียวคราวนี้จะเน้นที่คุณภาพ คือสีที่สามารถประยุกใช้ได้ทุกวัน
แบบทั้งเช้าและเย็นในพาเล็ทเดียวกัน รวมถึงแพ๊คเกจจิ้งที่น่ารัก น่าใช้ น่าพกพา
เวลาหยิบขึ้นมาแล้วดูสะดุดตาไม่ซ้ำใคร และที่สำคัญราคาจะต้องอยู่ในระดับกลางๆ
เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่ยังไม่มีรายได้
รวมไปถึงคนทำงาน ที่อยากมองหาพาเล็ทแต่งตาสวยๆ คุณภาพดี ในราคาไม่แพงมาใช้ดังนั้นวันนี้ออน
จึงเน้นพาเล็ทแต่งตาที่มีหลายๆสี เพราะสีสันที่ต่างกันออกไป ทำให้เราสามารถ
นำมาประยุกต์แต่งตาได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะทาเดี่ยวๆ ทาผสมกัน ใช้ไล้หัวตา หรือแต่งแบบเข้มๆ
เป็นแนวสโมกกี้อายส์ และที่สำคัญยิ่งพาเล็ทที่มีหลายสี ในขนาดเล็กพกพาสะดวก และใช้ได้หลายโอกาส
ก็ยิ่งคุ้มค่ากับเงินที่เราเสียไปมากเท่านั้นด้วยค่ะ
– Beautilicious Eye-Opener Kit ( 670 บาท )
– Lavshuca by Kanebo # BR-1 ( 500 บาท )
– Canmake Gradation Wink # 02 ( 280 บาท )
– Castledew Shirring Eyes 5 Colors # 1 ( 392 บาท )
เริ่มที่ Beautilicious Eye-Opener Kit กันก่อนนะคะ
พาเล็ทเซ็ตนี้ราคา 670 บาท ถ้าหากซื้อในอินเตอร์เน็ต แต่ถ้าซื้อจาก counter
ที่ Q-Concept สยามพาราก้อนหรือ counter สาขาอื่นๆ ราคาน่าจะบวกเพิ่มอีกประมาณ15%
เปิดมาในตลับเป็นสีแบบนี้จากด้านซ้ายสุดเป็นคอนซีลเล่อร์ เกลี่ยง่าย แต่สีออกโทน
เหลืองไปหน่อย แต่เอาไว้ปกปิดสิวเล็กๆน้อยๆหรือวันไหนที่จำเป็นและต้องการคอนซีลเล่อร์
จริงๆ ตัวนี้ก็ถือว่าโอเค เพราะติดมาอยู่ในตลับเลยส่วนอายแชโดว์มีทั้งหมด 3 สี สีแรกเป็น
สีชมพูเนื้ออ่อนๆ มีกลิทเทอร์เล็กน้อย สีที่สองเป็นสีชมพูอมน้ำตาลเข้มขึ้นมาอีกนิดนึง
มีกลิทเทอร์เล็กน้อยเหมือนกัน และสีที่สามเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำเนื้อด้านๆ
เวลาปาดออกมาแล้วจะได้สีแบบนี้ค่ะ
เหตุผลที่ชอบตัวนี้ และคิดว่าเป็นพาเล็ทที่คุ้มค่าในการซื้อเพราะว่า
1. ในวันธรรมดา ไปเรียน หรืออยากแต่งหน้าอ่อนๆสบายๆ สามารถใช้สีแรก
หรือสีที่สองทาเดี่ยวๆหรือทาผสมกันได้เลย โดยกลิทเทอร์จะละเอียด ดูไม่เว่อร์ ไม่วิ้งเกิน
2. เป็นสีที่สุภาพ จะแต่งไปเรียน ไปทำงานได้หมด เพราะเวลาแต่งออกมาจะได้สีที่เป็นธรรมชาติ
3. แต่ถ้าหากในวันนั้นเราพกแค่พาเล็ทนี้พาเล็ทเดียว แต่มีความจำเป็นต้องไปไหนกลางคืนต่อ
หรือต้องการแต่งหน้าให้ดูมากขึ้น เข้มขึ้น พิเศษขึ้น ก็สามารถใช้สีที่สามแต่งเป็นแนวสโมกกี้อายส์
หรือทาทับเบาๆ เพื่อให้ดวงตาดูคมเข้มขึ้นได้เลย
4. มีคอนซีลเล่อร์แถมมาให้ในตลับ ถึงแม้ว่าจะมีสีเดียว แต่ถ้าหากจำเป็นจริงๆ ก็ถือว่าอาจจะเป็น
อะไรที่ช่วยชีวิตได้ มากกว่าการที่ปล่อยตาดำๆคล้ำๆออกมา
5. มีแปรงเล็กๆไว้ในตลับให้ ไว้ใช้สำหรับเกลี่ยอายแชโดว์
6. ในราคา 670 บาท ได้พาเล็ทตาที่แต่งได้ทั้งกลางวัน-กลางคืน และเป็นสีที่ใช้ได้ในทุกวัน
ถือว่าคุ้มค่ะ ถึงแม้ว่าแพ๊คเกจจิ้งตัวนี้จะไม่น่ารักเท่า Beautilcious ชิ้นอื่นๆก็ตาม
ใช้พาเล็ทตาแต่ง ได้ลุคธรรมชาติ อารมณ์เกาหลีนิดนึง คือดวงตาจะดูสดใสขึ้น
แต่ไม่ได้เหมือนแต่งตามากๆ ส่วนข้อเสียของพาเล็ทนี้ึคือสีแรก และสีที่สอง เวลาทาออกมา
สีจะดูไม่ค่อยแตกต่างกันมากนักเท่าไหร่ บวกกับคอนซีลเล่อร์ที่มีสีเดียว บางคนซื้อ
ไปอาจจะใช้คอนซีลเล่อร์ไม่ได้
ตามมาด้วย Castledew Shirring Eyes 5 Colors # 1
เป็นพาเล็ทตาแบรนด์เกาหลีที่มองมานานมากตั้งแต่ Boots ยังไม่เอาเข้ามา จน Boots
เข้ามาเป็นปีแล้วในที่สุด พี่ที่รู้จักกันก็ส่งตัวนี้มาให้ลอง เพราะเห็นว่าช่วงนี้ออนกำลังบ้า
อายแชโดว์อยู่ ตอนเปิดกล่องออกมาดีใจมาก ตลับเป็นสี่เหลี่ยมๆตัดๆ อมชมพู สไตล์เจ้าหญิงค่ะ
ราคาในอินเตอร์เน็ตอยู่ประมาณ 390 บาท บวกลบนะคะ แต่ราคาใน Boots จะแพงกว่า
จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ไม่ได้ขายที่ Boots ทุกที่นะคะ เฉพาะสาขาค่ะ ออนเห็นที่ Boots สาขา K-Village ตรงพระราม 4 ค่ะ
เปิดออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ เรียงสีมาให้เลยน่ารักสุดๆ เรียงกัน 5สี พร้อมกับแปรงทา
อายแชโดว์ให้ในตัว แต่ออนคิดว่าคุณภาพแปรงไม่ดีเท่าไหร่ เพราะฟองน้ำดูก๊องแก๊งมาก
แต่ออนเป็นคนทาอายแชโดว์ใช้นิ้วปาดอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้แต่งโทนสโมกกี้ ที่ต้องใช้แปรงเบลนด์ๆ
ดังนั้นแปรงคุณภาพไม่ดี ไม่ใช่ปัญหาสำหรับออน
สีใกล้ๆเป็นแบบนี้ค่ะ มีสีเขียวอ่อน, ขาวมุก, ส้ม, ชมพูตุ๊กตา และน้ำตาลเข้ม
เวลาปาดออกมาแล้วสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สวยจริงๆ ใครชอบอะไรที่วิ้งๆแนะนำพาเล็ทนี้ค่ะ เพราะเนื้อวิ้งดีมาก คือมันเป็นวิ้งที่เยอะมาก
แต่ละเอียดมาก พอเวลาทามันจะดูเหมือนตาเรามีวิ้งที่ดูดี ไม่ใช่วิ้งเม็ดใหญ่ๆเลอะๆร่วงๆ
เนื้ออายแชโดว์ดีมากกกกกก สีเวลาทาออกมาแล้วจะไม่ได้ออกเป็นโทนสดๆขนาดเท่าในตลับค่ะ
สีจะอ่อนลงเล็กน้อย
ดังนั้นเหตุผลที่ชอบพาเล็ทนี้และคิดว่าคุ้มค่าแก่การซื้อก็เพราะ
1. ในหนึ่งตลับมีอายแชโดว์ทั้งหมด 5 สี ในตลับเล็กๆ ที่น่ารักมาก สามารถพกพาได้สะดวก
ในราคาไม่ถึง 400 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
2. สีเป็นโทนสีอ่อนๆ เหมาะสำหรับวัยรุ่น ที่กำลังเริ่มลองทาอายแชโดว์ ใช้โทนอ่อนๆ
จะเหมาะมาก เพราะอายแชโดว์โทนอ่อนที่มีวิ้งละเอียดแบบนี้จะช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
อย่างเป็นธรรมชาติได้ลุคใสๆ ดูไม่เว่อร์ ไม่โบ๊ะ
3. เนื้ออายแชโดว์ดีมาก เพราะบางยี่ห้อเนื้อจะร่วงเลย ยิ่งถ้ามีวิ้งๆด้วยแล้ว วิ้งๆร่วงระหว่างวัน
มาเลอะบริเวณตาด้วย แต่พาเล็ทนี้วิ้งเนื้อดีมากๆค่ะ ติดทนเลย ไม่ร่วงระหว่างวัน
4. โทนสีมีทั้งแบบอ่อนที่สามารถจะใช้ทาเดี่ยวๆในวันธรรมดา หรือแบบเข้มที่จะเอามาทำ
สโมกกี้อายส์ในเวลากลางคืน หรือวันที่ต้องการแต่งตาให้ดูเข้มเป็นพิเศษ
5. แพ๊คเกจจิ้งน่ารัก พกพาง่าย ดูเป็นผู้หญิงๆ เหมาะสำหรับวัยรุ่น หรือคนที่ชอบอะไรหวานๆ
ข้อเสียคือหาซื้อยาก เพราะยังไม่มี counter ที่แน่นอน มีขายเฉพาะที่ Boots บางสาขา
และราคาแพงกว่าในอินเตอร์เน็ต แต่สำหรับบางคนที่ไม่สามารถไปลองที่ Boots ได้
ก็อาจจะไม่แน่ใจสี ว่าถ้าซื้อในอินเตอร์เน็ตโดยไม่เคยเห็นสีจริงๆจะเข้ากับตัวเองมั้ย
มาถึงตลับที่สามนั่นก็คือ Canmake Gradation Wink # 02 ค่ะ
แบรนด์เครื่องสำอางค์จากญี่ปุ่น จำได้ว่าตอนออกใหม่ๆ หลายคนก็ซื้อตัวนี้เหมือนกัน
ตัวนี้พี่ที่รู้จักส่งมาให้ลองอีกแล้วค่ะ ตลับเล็กกระทัดรัดมาก แต่มีแต่งเพชรๆหน้าตลับ
สไตล์ญี่ปุ่นสุดๆราคาอยู่ที่ 280 บาทเท่านั้น
เปิดตลับออกมาเป็นสีแบบนี้ค่ะ มี 3 สีค่ะ
สีแรกเป็นสีน้ำตาลอ่อนเนื้อๆมีกลิทเทอรืละเอียดๆ สีที่สองเป็นสีน้ำตาลอม
ทองมีกลิทเท่อร์และสีที่สามเป็นน้ำตาลเข้มมีกลิทเทอร์
เอานิ้วปาดสีไปเลย 1 รอบ สีจะติดมืออกมาประมาณนี้
สังเกตุได้ว่าสีแรกจะติดอ่อนๆ สีที่สองและสีที่สามจะติดมากพอสมควร
ลองเอาแขนปาดไปกับหน้าอายแชโดว์เลย 1 รอบ สีติดมาตามนี้เลยค่ะ
ส่วนตัวคิดว่าเม็ดสีของสีแรกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยติด ถ้าจะใช้ทาเดี่ยวๆคงไม่เหมาะ
( ถ้าเอาสีขาวมุกจาก Castledew มาทาเป็นสีแรกแล้วตามด้วยสีที่สองและสีที่สามจาก
Canmake คงจะสวยมากๆ ) สำหรับสีที่สองและสามสีติดทนชัดค่ะ แต่กลิทเท่อร์จะไม่
ละเอียดเท่ากับ Castledew นะคะ
ทาออกมาแล้วจะได้สีโทนอ่อนๆสไตล์นี้ แต่ตรงหางตา ออนแอบใช้สีดำมีกลิทเทอร์จาก
Maybelline Hyper Diamond แตะนิดนึง นอกนั้นก็ใช้ทั้ง 3 สีจาก Canmake ค่ะ
เป็นอารมณ์แต่งตาโทนสีน้ำตาลที่สามารถแต่งได้ทุกวัน สีไม่เว่อร์จเนกินไป
เหตุผลที่ชอบพาเล็ทนี้และคิดว่าคุ้มค่ากับการซื้อสำหรับออน
1. แพ๊คเกจจิ้งน่ารัก พกพาง่าย ดูไม่ก๊องแก๊ง ไม่ใช่ของถูก แต่จริงๆราคาไม่แพง
เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่อยากเริ่มลองแต่งตา
2. มี 3 สี เป็นสีที่พอเอามารวมกันแล้วออกมาสวยกำลังพอดี ถ้าใครชอบแต่งตาโทนน้ำตาล
หรือโทนสีทองๆนิดนึง น่าจะชอบพาเล็ทนี้
3. สีแรกที่ทาแล้วไม่ค่อยติด ประยุกต์เอามาใช้เป็นอายแชโดว์บริเวณหัวตาได้ค่ะ
เพิ่มความสดใสให้กับหัวตา แต่ดูไม่จงใจเกินไป ดูวิ้งๆกำลังสวย
4. มีขายตาม Watsons ( เฉพาะสาขา ) สามารถไปดูสีและลองสีได้เลย ราคาอาจจะสูง
กว่าในอินเตอร์เน็ต แต่คุ้มสำหรับคนที่ชอบลองและเห็นของจริงก่อนการซื้อ
ข้อเสียคือถ้าคนที่ไม่ถนัดใช้นิ้วปาดอายแชโดว์ และชอบใช้แปรงหัวฟองน้ำ อาจจะไม่ชอบ
เพราะว่าตลับนี้ไม่มีแปรงหัวฟองน้ำใส่มาให้
มาถึงตลับสุดท้ายกันบ้างนั่นก็คือของ Lavshuca แบรนด์ญี่ปุ่นอีกแบรนด์ที่สินค้าน่ารักมากๆ
จริงๆออนตั้งใจจะรีวิวตั้งแต่พฤษภาปีที่แล้ว เพราะจำได้ว่าซื้อก่อนไปปักกิ่ง แล้วก็ลืม
จนใช้มาจนเกือบหมด ถึงปีนี้ก็ปีกว่าๆพอดีที่ใช้มา พาเล็ทนี้ออนซื้อจากร้านหิ้วที่มีหน้าร้าน
ราคาอยู่ที่ 500 บาท เช็คราคาในอินเตอร์เน็ตก็มีตั้งแต่ 460-600 บาท ซึ่งราคาที่ออน
ซื้อมาก็ถือว่าโอเค เพราะอย่างน้อยได้เห็นสีจริงๆเลยก่อนที่จะซื้อ
รูปนี้จะเป็นรูปที่เพิ่งถ่าย จะเห็นเลยว่าใช้ไปเยอะมาก เกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะสีขาว
เพราะสีสวยมากกก ใช้ทาเดี่ยวๆก่อนเขียนอายไลเนอร์ไปมหาลัยหรือวันไหนที่ต้อง
การแต่งหน้าสบายๆ สีชมพูวิ้งจะเม็ดใหญ่กว่าสีอื่น เหมาะสำหรับเอามาทาทับหลังจาก
แต่งเสร็จแล้ว ตาจะวิ้งมากกกพาเล็ทนี้ใช้บ่อยมาก ใช้เยอะมาก แต่แทบไม่ได้ถ่ายรูปตอน
แต่งเก็บไว้ให้เลย มีอยู่ไม่กี่รูปแถมไม่ค่อยชัดด้วย อันนี้แต่งแบบสโมกกี้ตอนอยู่เซี่ยงไฮ้ค่ะ
เหตุผลที่คิดว่าพาเล็ทนี้คุ้มค่ากับการซื้อสำหรับออน
1. มีอายแชโดว์ทั้งหมด 4 สี โดยสองสีแรก ( ขาวมุกและชมพูวิ้ง ) สามารถทาเดี่ยวๆ
หรือทาผสมกัน สำหรับวันธรรมดา วันที่แต่งหน้าอ่อนๆใสๆ เพราะจะได้ลุคธรรมชาติ
และสองสีหลัง ( สีน้ำตาลอ่อนทองและสีน้ำตาลเข้ม ) สามารถแต่งแบบเข้มๆ ทำสโมกกี้อายส์ได้
2. เม็ดสีละเอียด ติดทน ไม่ร่วงระหว่างวัน ไม่ทำให้หน้าเลอะ แต่งตั้งแต่เช้าก็อยู่ถึงเย็น
3. สีที่ผสมมาให้เป็นสีที่ใช้ได้ในทุกๆวัน ไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม พกตลับเดียวก็เอาอยู่
4. แพ๊คเกจจิ้งน่ารัก ดูเป็นเจ้าหญิงมากๆ ที่สำคัญตลับเล็ก พกพาง่าย ในราคาไม่แพง
ข้อเสียคือถ้าคนที่ไม่ถนัดใช้นิ้วปาดอายแชโดว์ และชอบใช้แปรงหัวฟองน้ำ อาจจะไม่ชอบ เพราะว่า
ตลับนี้ไม่มีแปรงหัวฟองน้ำใส่มาให้