สวัสดีค่าสาวๆทุกคน
วันนี้ออนไม่ได้จะมา Review ไอเท็มสกินแคร์ หรือเครื่องสำอางนะคะ
แต่จะพาไปพักผ่อน หย่อนใจ นอนสบาย วิวสวยกันที่ Executive Club Room
โรงแรม Amari Ocean Pattaya กันค่ะ
เมื่อช่วงประมาณเดือนที่แล้ว ออนได้มีโอกาสไปพักที่โรงแรม Amari โดยพักที่ตึกใหม่
นั่นก็คือตึก Ocean Tower ซึ่งจุดเด่นของการไปเที่ยว ไปพักผ่อนในครั้งนี้อยู่ที่ว่า
ออนได้ไปพักในส่วนของ Executive Floor นั่นเอง ส่วนความแตกต่าง ความเริ่ด
หรือมีอะไรดี เดี๋ยวออนจะเล่าให้อ่านกันค่ะ
ปกติเวลาที่เรามา Check-in เข้าโรงแรม เราก็จะ Check-in ตรง Lobby ใช่มั้ยคะ
แต่เนื่องจากว่าครั้งนี้ออนพักในส่วนของ Executive Room ดังนั้นก็จะมีสิทธิพิเศษในการขึ้นไป
Check-in แบบเป็นส่วนตัวสุดๆ ที่ Horizon Club ชั้น 19 ค่ะ
ซึ่งการ Check-in จะรวดเร็ว คนน้อย สบายๆ
และเมื่อ Check-in เสร็จ ก็สามารถไปห้องพักได้เลย โดยห้องพักจะอยู่ชั้น 20
โดยชั้นนี้จะเป็น Executive Floor และห้องจะถูกเรียกว่า Executive Club Room นั่นเอง
ซึ่งในโซนของ Executive Club Room จะเป็นส่วนสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนจริงๆ
หรือสำหรับคนที่อยากมาคุยงาน ดังนั้นโซนนี้จะไม่ได้รับลูกค้าที่มาเป็นแนวครอบครัว (หรือที่มีเด็กมาด้วย)
เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวและความสงบของแขกที่มาพัก ออนชอบไอเดียนี้มากนะ เพราะส่วนตัวยังไม่มีครอบครัว
และแทบจะทุกครั้งเวลาที่ไปเที่ยวต่างจังหวัด ออนจะเลือกพักโรงแรมแนว Boutique มากกว่าแนว Chain
เพราะแนว Boutique จะเป็นคู่รัก หรือเพื่อนไป แต่ถ้าโรงแรมแบบ Chain ส่วนมากจะเป็นครอบครัว
ที่มีเด็กเล็กๆมา ทำให้บางครั้งเสียงดัง ไม่เป็นส่วนตัว รบกวนเวลาพักผ่อน
แต่สำหรับคนที่มากันเป็นครอบครัว ก็สามารถพักชั้นอื่นๆได้ทุกชั้น ทั้งหมดเลยค่ะ
เพราะจริงๆแล้ว Amari แขกที่มาพักส่วนมาก ออนว่า 90% คือแนวครอบครัว นอกจากนี้
ถ้าไปในส่วนของ Garden Wings ก็จะมี Kids Club ที่มีของเล่นให้เด็กเล่น
หรือจะเป็นห้องฉายหนัง ฉายการ์ตูนให้ดู รวมถึงโซนสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ
ดังนั้นใครต้องการความเป็นส่วนตัว ความเงียบ ความสงบ
แนะนำ Executive Club Floor แต่ถ้ามาเป็นครอบครัว มีลูกน้อยมา ก็จองโซน
ปกติได้เลย ไม่มีปัญหาค่า สบายใจ แฮ๊ปปี้กันทั้งหมด
ห้องที่ออนพักในครั้งนี้คือห้อง “Executive Club King Room” ค่ะ
โดยในห้องจะค่อนข้างกว้าง ออนได้พักในส่วนของ Ocean View ก็จะเห็นวิวทะเลสวยๆ
มีโต๊ะนั่งทำงานริมกระจก มี TV จอแบนพร้อมเครื่องเล่น DVD (แต่จะบอกว่าที่นี่มีหนังให้ดูเยอะมาก
ไม่แน่ใจว่าใช้เป็นเคเบิ้ลหรืออะไร แต่ได้หนูหนังฝรั่งทั้งวันทั้งคืน ชอบมากกกก) และก็จะมีอุปกรณ์เครื่อง
ใช้อื่นๆทั่วไปค่ะ
เอาวิว Panorama ในห้องมาให้ดูกัน ที่นี่ในส่วนของ Shower ก็จะแยกอยู่ด้านนึง
ส่วนของ Toilet ก็จะแยกอยู่อีกฝั่งนึง โดยที่ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้า และมีให้ 2 อ่าง
ดันนั้นไม่ต้องแย่งกันแน่นอน นอกจากนี้ Gimmick เก๋ๆของห้องนี้อยู่ที่ว่ามี Bathtub ที่อยู่
ในส่วนกลางห้องเลย คนติดอ่าง Bathtub อย่างออนนี่ถูกใจมากค่ะ
ทุกครั้งที่ออนไปเที่ยว ไปพักผ่อน ออนจะจองห้องที่มี Bathtub เสมอ
เพราะออนไม่ชอบแค่เข้าในส่วนของ Shower แล้วอาบน้ำ แต่ออนชอบที่จะแช่น้ำอุ่น
ให้สบายตัว ให้เส้นคลายก่อนนอน พร้อมกับการทำ Bubble ตีฟองให้ฟู ถือเป็นการ
ผ่อนคลายง่ายๆที่ออนจะทำทุกครั้งเวลาไปพักผ่อน
————————————
มาดูกันในส่วนของ Horizon Club หรือที่ออนเรียกว่า Lounge กัน
ส่วนนี้คนที่พักในโซน Executive Club Room จะสามารถลงมาใช้ได้ตลอด
โดยช่วงช่วง 17.30 จะมี Happy Hours ที่ลงมากินขนม จิบชา หรือสั่งเครื่องดื่มได้ไม่อั้น
(เครื่องดื่มรวมทั้ง Soft Drinks, Alcohol, Non-Alcohol ค่ะ)
หลักๆจะเน้นเป็นอาหารว่าง ของเบาๆ แนว Cocktail กรุบกริบ
ถึงแม้จะมีให้เลือกไม่เยอะมาก แต่บอกเลยว่ารสชาติดี อร่อย
Wine และ Alcohol ไม่อั้น
ก็สั่งดื่มกันไปแบบสบายๆ เพราะไม่ต้องขับรถไปไหน ดื่มเสร็จก็อยู่โรงแรม
หรือเดินเล่นต่อ ไม่ต้องห่วงเหมือนตอนอยู่กรุงเทพว่าถ้าดื่มแล้วขับ จะอันตราย จะเจอด่าน
และในช่วงเช้า ถ้าอยากได้ความเงียบ ความสงบ หรือจะลงมาคุยงานต่อ
ก็สามารถทาน Breakfast ที่ Horizon Club ชั้น 19 ได้ค่ะ โดยอาหารจะเน้นอาหารฝรั่ง
สามารถสั่งทำเมนูไข่ต่างได้ ที่เหลือก็ตักเอา แต่อาหารจะไม่เยอะเท่าห้องอาหารเช้าปกติด้านล่าง
จะไม่มีพวกก๋วยเตี๋ยว อาหารไทยๆเท่าไหร่ค่ะ
แต่เนื่องจากออนไม่ชอบอาหารไทยเท่าไหร่อยู่แล้ว ดังนั้นการกินที่ Lounge ด้านบน
ถือว่าดีงามมาก เงียบ สงบ มีฝรั่งลงมาคุยงาน นัด Meeting ไม่มีเสียงอะไรดังๆกวนใจ
โอยยยยยย นี่แหละ ความดีงามของการมาพักผ่อนในครั้งนี้
————————————
การมาเที่ยวพักผ่อนของออนทุกครั้ง จะต้องไม่พลาดการมา Spa ค่ะ
ครั้งนี้ออนมาลองสปาที่ Breeze Spa โดย Breeze Spa จะอยู่ในเครื่องของ Amari ค่ะ
ซึ่งพนักงานแนะนำว่าให้ลองเป็นตัว Signature ของเค้า ก็คือ Signature Mood Massages
โดยแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นต่างกันออกไป ในครั้งนี้ออนอยากเน้นผ่อนคลาย นวดสบายๆ
ออนเลยเลือก Dreamy Take it E-Zzzz ค่ะ
ก่อนที่จะรับการบริการ ก็จะมีผ้าเย็นมาให้เช็ดมือ ให้รู้สึกสดชื่น
พร้อมน้ำเปล่า และน้ำผลไม้อร่อยๆค่ะ ชอบ Gimmick ตรงที่ใช้น้ำตาลแปะรอบ
ขอบแก้ว ได้อารมณ์เหมือนกิน Shot นี่นี่กินน้ำผลไม้สวยๆ สดชื่นนะ
เมื่อเข้ามาแล้ว หมอนวดก็จะทำการล้างเท้าให้ก่อน
เพื่อเตรียมที่จะขึ้นไปนอนบนเตียงค่ะ
หน้าตาห้องนวดเป็นแบบนี้ค่ะ
เนื่องจากออนนวดแนว Aroma คือการนวดน้ำมัน ดังนั้นจะต้องมีการถอดเสื้อผ้าออก
เหลือแต่ใส่กางเกงชั้นในเท่านั้น โดยระหว่างนวดจะมีผ้าเช็ดตัวคลุมส่วนอื่นๆที่ไม่ได้นวดไว้
(ไม่ต้องอายนะคะ ครั้งแรกก็อายค่ะ แต่คิดไปคิดมา หมอนวดเค้ามองวันละไม่รู้กี่คน
เค้าไม่มาสนใจอะไรของเราอยู่แล้ว ดังนั้นอยากผ่อนคลาย รูดเส้นสบาย จงอย่าอายค่ะ)
นวดไป 90 นาที..ฟินสิคะ
นอนสบายยาวๆ ปกติถ้านวดไทย ออนจะนวด 2 ชั่วโมงเลย จัดเต็ม
แต่เนื่องจากแพ๊คเกจของ Signature Mood Massage เค้ามี 90 นาที ดังนั้นก็เอาให้สุดค่ะ
ตอนนวดก็หลับ หมอนวดนวดดีมาก ตอนนวดได้ซักพัก จะถามว่าน้ำหนักมือโอเคมั้ย
เราก็แจ้งได้เลย ว่าจะเอาเบาลง หรือแรงขึ้น เพื่อที่เค้าจะได้ปรับน้ำหนักมือให้โอเคกับ
ความต้องการของเรา
หลายๆครั้งที่ยอมจ่ายแพง เพื่อมานวดในโรงแรมหรือนวดตามร้านดีๆ
ก็เพราะว่าหมอนวดจะถูกฝึกมารยาทมาดีกว่ามากๆ จะพูดเพราะ ถามดี และไม่มาชวนคุย
หรือคุยกับหมอนวดที่ขึ้นนวดด้วยกัน ทำให้ออนได้พักผ่อนจริงๆ ไม่หนวกหู ไม่รำคาณ
(เคยไปหลายที่ อารมณ์แบบอยากนวด ไม่มีอะไรทำ แล้วก็ไปนอนให้นวด หมอนวดจะ
ชวนคุยเยอะมาก พอเห็นเราไม่คุย ก็จะคุยกันเองกับหมอนวดคนอื่นๆ ไม่โอเคมากกก)
หลังจากนวดเสร็จ ก็จะมีบริการชาร้อน และขนม Lamington ให้ทานค่ะ
เป็นการนวดที่สบาย ประทับใจทั้งบริการของพนักงานที่ดูแลสปา และพนักงานนวดเลย
————————————
เนื่องจากครั้งก่อน ทานอาหารเช้าที่ Horizon Club ไปแล้ว
ดังนั้นมื้อนี้จะลงมาทานข้างล่างบ้าง เพื่อที่จะได้ลองทั้ง 2 ที่ ว่าเป็นยังไง และเก็บภาพมาฝากกันค่ะ
อย่างที่บอกไปว่าด้านล่างจะมีอาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยว ข้าว และอาหารไทยๆเยอะกว่า
โดยสามารถเลือกตักเอาได้ตามสะดวกเลย
Eggs Station ที่นี่ก็มีค่ะ
จะทำสดๆให้ดูกันเลย (ที่ Horizon Club เราจะต้องสั่งพนักงาน และพนักงานเข้าไปทำให้ในครัว)
และนี่คือหน้าตาของอาหารเช้าของออนในวันนี้ค่ะ
ชอบมากตรงที่มีเครื่องทำ Pancake เนี่ยแหละ กดๆจิ้มๆ แล้วก็มี Pancake ออกมา
โอ้ยยยย คือดี ถ้า Horizon Club มีเครื่องนี้ด้วย จะฟินมาก จะไม่ขออะไรเลย
————————————
(ขออณุญาตยืมรูปจาก : www.ilovetogo.com มาประกอบ Review นะคะ
ถ้าหากต้องการอ่าน Review เพิ่มเติม รบกวนดูได้ที่นี่ คลิก)
ที่นี่จะมีร้านอาหาร 2 ร้าน มี Mantra กับ Tavern By The Sea
โดย Mantra จะเป็น Fine-Dining (ต้องใส่รองเท้าหุ้มส้น ห้ามใส่รองเท้าแตะเข้าไป)
ส่วน Tavern By The Sea จะเป็นแนว Sport Bar เหมือนอยู่อเมริกา
ที่มีทั้ง Indoor และ Outdoor วิวทะเล ให้นั่งกินบรรยากาศ หรือจะดูกีฬาก็ได้ค่ะ
แต่วันนี้ออนจะมา Review ในส่วนของ Mantra ให้อ่านกันนะคะ
ร้านนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะติดอันดับใน Trip Advisor Ranking ด้วยนะคะ
โดยได้อันดับที่ 4 ของ Top 10 Choice Restaurants in Thailand
ภายในร้านจะค่อนข้างมืดนิดนึง และโต๊ะจะไม่ชิดกันมาก ดังนั้นจะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว
จุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่ Open Bar Corners ซึ่งมีถึง 7 Corners เลย
โดยแต่ละ Corners อาหารก็จะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารจีน
อาหารอินเดีย อาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาเลี่ยน อาหารฝรั่ง รวมถึงอาหารแนวเมดิเตอเรเนียน เป็นต้นค่ะ
ดังนั้นถ้าหากมาร้านนี้ บอกเลยว่ามีตัวเลือกของอาหารเยอะมากค่ะ ไม่ต้องตีกันแล้ว
ว่าวันนี้อยากกินญี่ปุ่น แต่อีกคนอยากกินไทย
เริ่มกันที่ Mocktail แก้วนี้
จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่ว่ารสชาติหวานๆเปรี้ยวๆค่ะ ส่วนตัวเป็นคนชอบกิน Cocktail/Mocktail
รสชาติแนวนี้ เลยสอบถามทางพนักงาน และพนักงานได้แนะนำแก้วนี้มา
จานนี้ของโปรดกับ Atlantic Salmon Sashimi & Avocado Salad,
KetaCaviar %Sesame Dressing (450 บาท) ส่วนตัวชอบทาน Salmon Sashimi อยู่แล้ว
และ Avocado ก็เป็นอีกสิ่งที่ชอบ พอมากินรวมกัน พร้อมด้วย Sesame Dressing คือดีงามมาก
ราคาอาจดูสูง แต่บอกเลยว่า Salmon เป็นชิ้นๆ อัดแน่นมากกกก ไม่ใช่แค่ 5-6 ชิ้นนะคะ
จานนี้ให้เยอะมากกกกกก คือคุ้มราคา
จานนี้ออนไม่ได้ทาน เพราะไม่ค่อยชอบอาหารจีนเท่าไหร่
แต่แฟนทานแล้วบอกว่าอร่อยมากกกก จานนี้คือ BBQ Selectio : BBQ Duck,
Crispy Pork Belly & BBQ Red Pork (ราคาน่าจะ 350-500 บาท) แฟนบอกว่าหมูกรอบ
อร่อยมากกกกกกก อื่นๆโอเค แต่หมูกรอบคือที่สุด ใครชอบหมูกรอบ ห้ามพลาดจานนี้นะคะ
ส่วนจานนี้ของโปรดออนค่ะ น้องแกะนั่นเอง เป็นมนูษย์กินแกะอยู่แล้ว
กับ Duo of New Zealand Lamb (ราคา 1,190 บาท) เป็น Grilled Lamb Racks
ออนสั่งแบบ Medium-Rare เนื้อนุ่ม ละมุน กลิ่นหอม นุ่มลิ้นมากกกกกกกกก
ในส่วนของขนม ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร
หรือเป็นแนว Today’s Special ของแต่ละวันรึเปล่า แต่จานนี้จะเป็นมะม่วงค่ะ
คือมีทั้ง Mango Souffle, Ice-Cream with Sticky Rice และ Mango Jelly
คนชอบกินมะม่วงแบบออน ก็กินไปค่ะ กินไป ฟินไป มีความสุข
จริงๆมีอาหารกันเยอะกว่านี้ค่ะ
แต่ออนถ่ายและ Review อันที่ชอบมากๆมาเท่านั้น สายกินแบบออนไม่พลาด
————————————
ก่อนจะจบกันไปก็เอาวิวโรงแรมและบรรยากาศมาฝากกันค่ะ
อันนี้เป็นวิวจากห้องพักของออนที่ Executive Club Floor ชั้น 20
และที่นี่มีสระว่ายน้ำใหญ่ 2 สระเลยนะคะ จะว่ายสระไหนก็เลือกเอาได้เลยค่ะ
พร้อม Pool Bar ให้บริการ จะว่ายน้ำและแวะมาจิบเครื่องดื่มก็ได้นะคะ
————————————
โดยรวมแล้วออนประทับใจการบริการ และการดูแลเอาใจใส่ของที่นี่นะคะ
ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในโรงแรมที่อัธยาศัยดี พนักงานในส่วนของ Horizon Club
พนักงานที่ร้านอาหารด่วนล่าง พนักงานนวด โอเคเลย
ห้องสะอาด ติดทะเล เดินทางไม่ยาก หาง่าย
ใกล้ Central Festival ด้วย ใช้ชีวิตเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ จากโรงแรม
ก็ไปเซ็นทรัล ดูหนัง เดินเล่น แล้วก็กลับมาโรงแรม ดูหนัง ชีวิตสบายเหมือนอยู่
กทม แต่ได้ดูวิวทะเล ฟังเสียงคลื่นเบาๆ
อยากแนะนำนะคะ เพราะถ้ามีครอบครัว ทาง Amari ก็ตอบโจทย์อยู่แล้ว
เพราะจริงๆลูกค้าส่วนมากเป็นแนว Family แต่ถ้าอยากพักที่ Amari แบบส่วนตัว
เงียบๆ ก็มีทางเลือกให้อีก ดังนั้นจะไปแบบครอบครัว หรือแบบส่วนตัว ก็ได้ค่ะ
ยังไงวันนี้จบกันไปก่อนนะคะ
อย่าลืมรอติดตาม Blog หน้า ว่าออนจะพาไปพักผ่อนที่ไหนอีกนะคะ
สวัสดีค่า
Disclaimer : I was offered free accommodations from Amari Ocean Pattaya,
however I was not paid for this post. All opinions are my own.