สวัสดีค่ะ
กลับมาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกระทู้
OnnBaby’s 2011 Selected Items กันนะคะ ตอนนี้ยังอยู่ในโหมดช็อกอยู่
เพราะว่าเมื่อกี้พิมพ์มาเกินครึ่งทางแล้ว เผลอกดผิด ปิดหน้า Jeban ไปเฉยเลย
สรุปต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ ทุกอย่างเลย
ไม่เป็นไร พิมพ์ใหม่ก็ได้ค่ะ วันนี้ตั้งใจทำกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะว่าปีที่แล้ว
ออนก็ได้ทำไว้เหมือนกันเป็น OnnBaby’s 2010 Selected Items เป็นการเลือก
เครื่องสำอางที่คิดว่าชอบที่สุดจากในเวลา 1 ปีที่ได้ลองใช้มา และอยากแชร์ความชอบนี้
ให้กับเพื่อนๆ ผู้อ่านคนอื่นๆ เผื่อว่าจะได้ไอเดียอะไรบ้าง แต่ว่าในปีนี้ก็จะมีส่วนที่เพิ่ม
เติมมาจากปีที่แล้วค่ะ ก็จะมี ..
– ไอเท็มชนิดเดียวกัน แต่คนละแบรนด์ ในราคาที่สูง และในราคาสบายกระเป๋า
ทำให้คนอ่านมีตัวเลือกเยอะขึ้น ว่าอยากได้ชิ้นไหน อะไรบ้าง
– ความคุ้มค่า และ Minalist ของไอเท็ม คือการเน้นพกอะไรที่น้อย แต่ว่า
ใช้ประโยชน์ได้ครบ เช่นพวก พาเล็ทแต่งตา พาเล็ทบลัชออน ฯลฯ
———————————————————————-
– ไอเท็มที่นำมา Review ในกระทู้นี้มีเฉพาะในส่วนของเครื่องสำอาง
เพราะ Skincare จะเป็นอะไรที่อยากกว่า เพราะผิวแต่ละคนมีปัญหา และความ
ต้องการที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ผลการใช้อาจจะคลาดเคลื่อนได้เยอะ
– ถ้าไม่มีผลิตภัณฑ์ในหมวดไหน แสดงว่าออนยังไม่เจอที่สุดของผลิตภัณฑ์
ในหมวดนั้นนะคะ เช่น ที่ดัดขนตาปลอม เบส ฯลฯ
– Review จะเป็นแบบสั้นๆนะคะ สรุปเอาเลย ถ้าอยากอ่านแบบเต็มๆที่
เคย Review ไปแล้ว เข้าไปอ่านในเว็บบล็อกของออน หรือว่าจิ้มกุีกไก่ของ
Jeban ดูกระทู้เก่าๆเอาได้ค่ะ
– ผลิตภัณฑ์ที่ Review ในกระทู้นี้ ส่วนมากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออนซื้อด้วยตัวเอง
และมีบางชิ้นที่ได้รับมาจากแบรนด์ให้ทดลองใช้ ทั้งนี้ทั้งนั้นผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ออนได้ลอง
ใช้มาด้วยตัวเอง กับหน้าตัวเอง ดังนั้นการเขียน Review ของออน มาจากความรู้สึก
หลังการใช้ส่วนตัว 100% ค่ะ
– ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นให้ผลที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน และการ Review และเลือก
ผลิตภัณฑ์มาในวันนี้ ก็เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของออนค่ะ ดังนั้นสิ่งที่ออนบอกว่าดี
อาจจะไม่ได้ดีสำหรับคนอื่นค่ะ ฉะนั้นก่อนการตัดสินใจซื้อควรหาข้อมูลให้ครบ หรือไป
ลองด้วยตัวเองเลยจะดีที่สุดค่ะ
———————————————————————-
1. กันแดด
Beauty ETC จากกานต์ชนกคลีนิก
ราคา 150 บาท
กันแดดเนื้อมูสสีเนื้อจากกานต์ชนกคลีนิก เกลี่ยง่าย ปกปิดเล็กน้อย ช่วยให้ผิวหน้าดู
เรียบเนียนขึ้น สว่างสดใสขึ้น ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เป็นคราบ ไม่ทำให้หน้าหมอง
ราคาไม่แพง และหาซื้อได้จากกานต์ชนกคลีนิกทุกสาขา ที่สำคัญมีสีให้เลือกประมาณ 3 เฉด
สี เพื่อให้เหมาะกับผิวหน้าตัวเอง ใช้อะไรมาก็ต้องกลับมาหากระปุกนี้ค่ะ ใช้มาประมาณ
กระปุกที่ 6-7 ได้แล้ว กระปุกเล็ก พกพาง่าย กระปุกนึงใช้ได้ปรมะมาณ สองเดือนค่ะ
ค้มค่าราคามากๆ ของถูกและดียังมีอยู่จริงๆ
2. รองพื้น
ซ้าย : Coffret D’or Silky Lasting UV Gel Foundation SPF 26 PA++ ( 1,350 บาท )
ขวา : Cezanne UV Liquid Foundation SPF26 PA++ ( 450 บาท )
Coffret D’or Silky Lasting UV Gel Foundation ตัวนี้มี SPF26 และค่า PA++
เป็นรองพื้นเนื้อเจล เกลี่ยยากเล็กน้อย เพราะว่าแห้งเร็วมาก แต่ว่าใช้แล้วได้ลุคที่ดูธรรมชาติ
ไม่หนา ไม่ปกปิด แต่เหมืิอนผิวสุขภาพดี และผิวดูผ่องขึ้น สดใสขึ้น ตัวนี้ใช้แล้วไม่ทำให้หน้ามันขึ้น
ไม่หมอง ไม่ลอย เรียกว่าเช้ายันเย็น ติดทนมาก
ในส่วนของไอเท็มราคาเบาๆ
Cezanne UV Liquid Foundation ตัวนี้ก็มี SPF26 และค่า PA++ เหมือนกัน
แต่ว่าเป็นรองพื้นเนื้อลิขวิด หรือรองพื้นแบบน้ำนั่นเอง เขย่าขวดก่อนใช้ เกลี่ยง่าย
ไม่เน้นปกปิด เน้นลุคใสๆ เป็นธรรมชาติ ใช้แล้วระหว่างวันสีไม่หมอง ไม่ดร็อป พกพาง่าย
ราคาไม่แพง
3. แป้งแบบ Mineral
M.A.C Mineralize SkinFinish Natural ( 1,350 บาท )
แป้งที่ใช้ปัดเป็นแป้งหลักๆ หรือเติมระหว่างวัน ใช้มาเป็นตลับที่ 2 แล้ว และยังรักมาก
เพราะว่าได้ลุคที่ดูไม่หนาไม่เบาจนเกินไป ปกปิดกลางๆ กำลังดี ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี
ที่สำคัญแป้งติดทนตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย ผ่องๆ ด้วย แต่ควรเลือกสีทีสว่างกว่าผิวจริง
ประมาณ 1 เบอร์ เพราะว่าแป้งรุ่นนี้พอเซ็ตตัวแล้ว สีจะดร็อปลงมานิดนึง
4. แป้งผสมรองพื้น
Beautilicious Puff-Up Souffle ( 650 บาท )
แป้งพัฟผสมรองพื้นของ Beautilicious ตัวนี้ให้การปกปิดปานกลาง ควบคุมความมันได้ดี
ได้ลุคที่ดูผ่องๆ แต่จะไม่ดูวอกหรือลอยเท่ากับแป้งเกาหลี เพราะว่าสีแป้งจะเหมาะกับผิว
คนไทยมากกว่า มีเฉดให้เลือกน้อย แต่ว่าใช้แล้วโอเคเลย ไม่ขาวเกินไป ไม่เหลืองเกินไป
ที่สำคัญสีแป้งไม่เปลี่ยนระหว่างวัน ไม่เป็นคราบ ไม่ดร็อป และไม่หมอง ติดทนมมาก
5. Enhancer
Lauress Enhancer สี Chiffon (ขนาดจริงราคา 650 บาท)
เป็น MMU หรือ Mineral Make-Up เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ผิวอุดตันง่าย
เป็นฝุ่นโปร่งแสง หรือแป้งม่วงที่เคยฮิตมากเมื่อหลายปีก่อน ตัวนี้ไว้ใช้ปัดทับหลังแต่งหน้า
เสร็จ จะช่วยให้ผิวหน้าดูผ่อง และสดใสขึ้น แต่ไม่ได้มีวิ้ง เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากได้วิ้งๆ
บนหน้า แต่อยากให้หน้าดูผ่อง และสดใส ที่สำคัญแป้งรุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่รูขุมขนกว้าง
เพราะว่าพวกแป้งที่มีวิ้งจะไปเน้นรูขุมขนให้ดูใหญ่กว่าเดิม แต่ตัวนี้จะไม่เน้น แต่จะช่วย
ให้ผิวหน้าดูสดใส ยิ่งโดนเหงื่อ โดนความร้อน ก็จะผ่องขึ้น ไม่หมอง ไม่ดร็อป รักมากตัวนี้
ใช้ขนาดทดลองหมดแล้วรีบหาขนาดจริงมาใช้เลย
6. Finishing Pressed Powder
Paul & Joe Finishing Pressed Powder # 001 ( ไม่ทราบราคา เพื่อนให้วันเกิดค่ะ )
เป็นเหมือนแป้งฝุ่นอัดแข็งพร้อมชิมเมอร์ ไว้ปัดตอนแต่งหน้าเสร็จเช่นกัน ตัวนี้ชิมเมอร์จะ
ละเอียด มีสีอมชมพูอ่อนๆ ปัดแล้วจะดูวาวๆขึ้น สดใสขึ้น แต่จะไม่มากจนเกินไป
ไม่เน้นรูขุมขนให้ดูกว้างขึ้น และไม่ทำให้หน้าดูมันขึ้น ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
แปรงที่ให้มาด้วยนิ่มมาก สามารถใช้แปรงตัวนี้ได้เลย แพ๊คเกจจิ้งก็น่ารักมาก หลงรักสุดๆ
7. Brightening Face Primer
Benefit That Gal Brightening Face Primer ( ไม่ทราบราคา เพื่อนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด )
เป็นไพรเมอร์แบบครีมสีชมพู ใช้ทาเดี่ยวหรือผสมกับรองพื้น/บีบีครีม จะช่วยให้ผิวหน้าดู
ฉ่ำๆขึ้นมา และดูสุขภาพดี ที่สำคัญดูไม่หลอก ไม่ลอย และเม็ดวิ้งละเอียด เหมาะสำหรับ
ใช้ตอนกลางคืน เพราะเวลาถ่ายรูปออกมา ผิวหน้าจะดู Glow แต่ก็จะไม่มันจนเกินไป
8. Eye Primer
อายไพรเมอร์ใช้ทาบริเวณเปลือกตา ก่อนทาอายแชโดว์ จะช่วยให้สีติดทนขึ้น ชัดขึ้น
และดูมีมิติมากขึ้น
ซ้าย : Lauress Revital Eyes Eye Primer ( 560 บาท )
MMU ( Mineral Make-Up ) เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย บอบบาง
ขวา : Urban Decay Eyeshadow Primer Potion ( ไม่ทราบราคาเดี่ยวๆ )
Lauress Revital Eyes Eye Primer เป็นอายไพรเมอร์จากแบรนด์ Lauress ที่เน้นใน
เรื่องของการบำรุง โดยมีส่วนผสมของแตงกว่า ช่วยบำรุงให้ความชุ่มชื้นบริเวณเปลือกตา
ใช้แล้วสีอายแชโดว์ติดทนขึ้น ชัดเจนขึ้น และดูมีมิติมากขึ้น เวลาใช้ ใช้นิดเดียว ไม่ต้องเยอะค่ะ
หลอดนึงใช้ได้หลายเดือนมากๆเลย หรืออาจจะเกินปีนึงด้วยซ้ำ
Urban Decay Eyeshadow Primer Potion
เนื้ออายไพรเมอร์ไม่ข้นเท่า Lauress แต่เกลี่ยง่ายเหมือนกัน ตัวนี้ไม่น่าจะช่วยในเรื่อง
ของการบำรุงเท่าไหร่ แต่ว่าในเรื่องของอายแชโดว์ ช่วยให้สีติดทน ดูชัดขึ้น
และดูมีมิติขึ้นเหมือนกันค่ะ ปริมาณใช้น้อย ไม่ต้องมาก
9. Eyeliner
ซ้าย : Maybelline HyperSharp Liner ( ราคา 390 บาท )
ขวา : Cosluxe Wanderlust Eyeliner ( ราคา 199 บาท )
Maybelline HyperSharp Liner เส้นคม เขียนง่าย สีดำสนิท ติดทน เห็นชัด
ไม่หลุด ไม่เลอะ แต่ล้างออกง่าย หาซื้อง่าย
Cosluxe Wanderlust Eyeliner เส้นคม เขียนง่าย สีดำสนิท ติดทน เห็นชัด
ไม่หลุด ไม่เลอะ ล้างออกง่าบ ราคาถูกกว่า Maybelline แต่หาซื้อยากกว่า
สองตัวนี้เป็นอะไรที่ชอบมากกกกค่ะ ที่สุดจริงๆในปีนี้สำหรับอายไลเนอร์หัวพู่กัน
กึ่งเมจิกแบบนี้ ดังนั้นใครชอบลองสินค้าก่อนซื้อแนะนำ Maybelline ใครอยากลอง
ของใหม่ และชอบสั่งของจากอินเตอร์เน็ต ลองดู Cosluxe ค่ะ
10. Concealer
ซ้าย : M.A.C Studio Finish Concealer ( ราคาน่าจะ 600-700 กว่าบาท )
ขวา : Holika Holika Dark Circle Stealer ( ราคาประมาณ 300 กว่าบาท )
M.A.C Studio Finish Concealer คอนซีลเลอร์เนื้อครีม เกลี่ยยากเล็กน้อย แต่ให้การ
ปกปิดสูง ปกปิดรอยคล้ำใต้ดวงตาได้ค่อนข้างดี ใช้ตัวนี้แล้วรอยคล้ำใต้ดวงตาหายไปหมดเลย
มาถึงไอเท็มราคาน่ารักกันบ้าง
Holika Holika Dark Circle Stealer เป็นคอนซีลเลอร์แบบน้ำ ไม่เน้นปกปิดเท่าไหร่
เกลี่ยง่าย ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับใครที่ต้องการคอนซีลเลอร์แบบธรรมดา ไม่ต้องปกปิดมาก
เน้นใสๆ ตัวนี้ก็ใช้ได้เลยค่ะ แต่เหมือนจะไม่มีเฉดสีให้เลือก
11. Eyeshadow Palette
อายแชโดว์พาเล็ทจะช่วยประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋า ในการพกพาเครื่องสำอาง
ที่สำคัญพกพาเล็ทเดียว ก็สามารถแต่งจากลุคการวัน ให้เปลี่ยนเป็นลุคกลางคืนได้ทันที
ที่ได้ลองมาแล้วชอบก็จะมีของ Lavshuca แบรนด์ญี่ปุ่น แพ๊คเกจจิ้งน่ารัก เม็ดสีชัด
ราคากลางๆ, Beautilicious ผลิตจากอิตาลี่ แพ๊คเกจจิ้งน่ารัก ราคากลางๆ เม็ดสีชัด
พร้อมบอกวิธีการแต่งมาด้วยแบบรูป, Maybelline หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง เม็ดสีชัดเจน
ผสมสีมากำลังสวยเลย และสุดท้ายที่พาเล็ทบิ๊กเบิ้มสุดคุ้มอย่าง Naked Palette
เรียกว่ามีครบสีที่ควรจะมี พกตลับเดียวแต่งได้หมดเลย ราคาถ้าเทียบกับปริมาณและ
คุณภาพแล้วถือว่าคุ้มมาก ที่สำคัญเม็ดสีดีด้วย
12. อายไลเนอร์แบบดินสอ
M.A.C PowerPoint Pencil Eyeliner ( 600-700 กว่าบาท )
อายไลเนอร์แบบดินสอเนื้อนุ่ม เขียนง่าย สีเข้ม แต่ที่สำคัญติดทนมาก จะเขียนขอบตาบน
หรือขอบตาล่างก็ได้หมดเลย ออนใช้ตัวนี้เขียน waterline หรือขอบตาด้านในด้วย เลอะน้อย
ที่สุดในบรรดาอายไลเนอร์แบบดินสอที่เคยใช้มา
13. Laura Mercier Eyebrow Pencil ( ราคา 700 กว่าบาท )
ดินสอเขียนคิ้ว เนื้อนุ่ม ติดทน ตัวนี้เหมือนเคยได้รับรางวัลของ Cleo หรือ Cosmo
ด้วยซักอย่าง เนื้อดินสอจะไม่แข็ง ทำให้เขียนง่าย และดูไม่เป็นเส้นเกินไป จะได้ลุคธรรมชาติ
14. Canmake Eyebrow Liquid ( 339 บาท )
ปากกาเขียนคิ้วตัวนี้จะช่วยแซมขนคิ้ว ให้คิ้วได้รูปขึ้น ดูสวย และดูเต็มเป็นธรรมชาติ
คิ้วจะไม่ดูฟู หรือฟุ้ง ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนเริ่มหัดเขียนคิ้ว
15. Mascara
Maybelline The Falsies Volume Express Waterproof Mascara ( ไม่ทราบราคา )
ตัวนี้ออนมีทั้ง formula ของทางยุโรป และของเอเชีย เป็นมาสคาร่าที่ใช้แล้วชอบมากก
เพราะว่าได้ลุคขนตาฟูๆ ไม่จับตัวเป็นก้อน ช่วยให้ขนตาดูยาว และหนาเป็นแพมากขึ้น
ที่สำคัญเรียงเส้นสวย ไม่ตกระหว่างวัน ไม่เลอะ แต่ก็ล้างออกง่ายมากๆ ที่สำคัญราคาไม่แพง
และหาซื้อได้ง่าย
16. Blush On
M.A.C Blush ( ราคา 800-900 กว่าบาท )
บลัชออนจาก M.A.C มีให้เลือกหลายเฉดสีมากๆ ติดทน ตั้งแต่เช้ายันเย็น
มีให้เลือกหลายเนื้อเลย ทั้งแบบมีชิมเมอร์ และแบบด้าน ใช้แล้วไม่ผิดหวัง ที่สำคัญ
เม็ดสีดีมาก และตลับนึงก็ใช้ได้นานมาก
17. Duo Blush On
Beautilicious Lavie En Rose ( 560 บาท )
บลัชออนดูโด้สุดคุ้ม เพราะมีทั้งสีชมพู และส้มอมพีช เรียกว่าพกตลับเดียว ก็แต่งได้ทั้ง
สองลุคเลย ที่สำคัญเม็ดสีดีมาก บลัชออนสีติดทนมาก ราคาไม่แพง แพ๊คเกจจิ้งน่ารัก
18. Cezanne Shadow & Nose Hilight ( จำราคาไม่ได้ค่ะ )
เป็นตัวไฮไลท์จมูกที่ดีมาก เพราะพกพาได้ง่าย และใช้งานง่าย พกตลับนี้ สามารถ
ใช้ไฮไลท์จมูกให้ดูมีมิติขึ้นมา เหมือนคนมีดั้งสวยๆได้เลย ราคาไม่แพง ใช้งานง่าย
และหาซื้อง่าย
19. Lipstick
M.A.C Lipstick ( ราคา 800 บาท )
ออนใช้ลิปสติกของ M.A.C เยอะมากค่ะ เพราะว่าชอบคุณภาพของเค้า คือมีให้เลือก
หลายเนื้อมาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อซาติน แบบ matte หรืออะไรก็แล้วแต่ และเม็ดสีดี มีให้เลือก
หลากหลายสี ใช้ได้นาน
20. Mist
M.A.C Charged Water และ Fix+
สองตัวนี้ช่วยในเรื่องของการช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น ใช้ฉีดก่อนและหลังแต่งหน้า
ไม่ต้องห่วงว่าทาแป้งหลังฉีดแล้วจะเป็นคราบ แต่จะช่วยให้แป้งเนียนขึ้นสุดๆ และช่วย
ให้แป้งติดทนมากๆ ใครที่ต้องแต่งหน้าตั้งแต่เช้า และจะต้องอยู่ถึงดึก ควรพกไว้ในกระเป๋า
ก่อนจะเติมแป้งอีกทีก็ฉีดไกลๆเบา แค่ฟิตสองฟิต แล้วเติมแป้งก็จะช่วยให้ใบหน้า
กลับมาดูสดใสได้เยอะเลย
21. Magic Blender ( ราคา 300 กว่าบาท )
Issie Magic Blender เป็นฟองน้ำไข่มหัศจรรย์ ไว้ใช้เกลี่ยรองพื้น หรือพวกบีบีครีม
ตัวนี้เป็นของญี่ปุ่น ซึ่งลองใช้แล้วคุณภาพจะดีกว่าของอเมริกา หาซื้อได้จาก Loft ค่ะ
ตรงปลายแหลมของไข่ สามารถเกลี่ยและเก็บรายละเอียดตามซอกตามมุมได้ดี
เช่นซอกจมูก ร่องแก้ม ร่องตา และตรงฐานกลมๆของไข่ ไว้ใช้เกลี่ยบริเวณทั่วไปเช่นหน้าผาก
แก้ม คาง ฯลฯ ใช้ตัวนี้แล้วไม่กินเครื่องสำอางเลย ที่สำคัญมันเนียนมากกกกจริงๆ
สามารถทำความสะอาด และนำกลับมาใช้ได้ตลอดเลย สีไม่ตกด้วย รักมากกกก
22. Traveing Brushes Set
Beautilicious Traveling Brush Set ( 650 บาท )
เซ็ตแปรงพกพาของ Beautilicious มาพร้อมกับซองกำมะหยี่สีดำ ตัวนี้เหมาะสำหรับคน
ที่พึ่งเริ่มแต่งหน้าไม่เน้นอะไรมาก จะมีแปรงบลัชออน แปรงทาคอนซีลเลอร์ แปรงทา
อายแชโดว์ แปรงสำหรับคิ้วหรืออายไลเนอร์ และแปรงสำหรับลิป ขนแปรงนิ่มมาก
ในราคานี้ และแพ๊คเกจจิ้งน่ารักแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้เหมือนบริษัทเค้าเลิกผลิตไป และคิดว่า
น่าจะออกตัวใหม่มาเร็วๆนี้ ยังไงลองดูตัวใหม่กันนะคะ เพราะว่าตัวนี้หมดเกลี้ยงเลย
ออนเสียใจมาก ยังแอบคิดอยู่ว่าน่าจะเก็บไว้อีกเซ็ต แต่ไม่เหลือแล้ว
23. Traveling Brushes Set
Sigma Traveling Brushes Set ( ราคา 2,000 กว่าบาท )
ใครที่เริ่มอยากแต่งหน้าจริงๆจังๆขึ้นมาหน่อย หรือเริ่มอยากสะสมแปรงที่จริงจังขึ้นมา
อีกนิดนึง ลองดูเซ็ตนี้ได้ค่ะ ในเซ็ตมีแปรงทั้งหมด 7 ชิ้น และโดยปกติจะมีแปรงแถมมาอีก 1 แปรง
ถ้าสั่งจากทางเว็บไทยบางร้านจะได้แปรงแถม 2 แปรง รวมเป็น 9 ชิ้นทั้งหมด
แปรง Sigma ขนแปรงนุ่ม คุณภาพดี ไม่กินเครื่องสำอาง ไม่ก๊องแก๊ง
แพ๊คเกจจิ้งน่ารัก ราคาเทียบกับคุณภาพแล้วคุ้มมาก ไปด้วยกันมากๆ พกพาง่าย ใช้งานได้จริง
24. Professional Make-Up Brushes Set ( 3,800 บาท ซื้อจากเว็บหิ้ว )
Sigma Mrs.Bunny Essential Brush Kit เซ็ตนี้จะเป็นเซ็ตที่ดูโปรขึ้นมานิดนึง
เหมือนจริงจัง และเป็นทางการขึ้น โดยในเซ็ตจะมีแปรงมาให้ทั้งหมด 12 ชิ้น ขนนิ่มมาก
ใช้ดีมาก ครบมาก ไม่ว่าจะแก้ม ตา ปาก หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่สำคัญไม่กินเครื่องสำอาง
และแพ๊คเกจจิ้งสามารถพกพาได้ คุณภาพเทียบกับราคาแล้วก็ยิ่งกว่าคุ้มค่ะ
25. Kabuki Brush
แปรงคาบูกิ หรือแปรงปุ้มปุ้ย ตัวนี้เหมาะสำหรับปัดแป้งมากๆ เพราะจะช่วยให้แป้ง
ติดบนใบหน้าได้ดี แต่ไม่ดูหนาเกินไป เหมือนการใช้พัฟ
ซ้าย : Lauress Cashmiere Kabuki Brush ( 1,250 บาท )
ขวา : Sigma Princess Grace Kabuki Brush ( สั่งมาจาก Sigma โดยตรง ประมาณ 700 กว่าบาท )
Lauress แปรงคาบูกิ ตัวนี้ขนแปรงจะแน่นมาก เวลาปัดแล้วจะรู้สึกได้เลย ทำให้เครื่องสำอาง
ติดทน ไม่กินเครื่องสำอาง ขนแปรงจะไม่นิ่มจนเกินไป เพราะถ้านิ่มจนเกินไป จะทำให้เครื่อง
สำอางไม่ติดหน้า คุณภาพพอๆกับ M.A.C ในราคาที่ถูกกว่าเท่าตัวนึง ด้ามจับแข็งแรง ไม่ก๊องแก๊ง
Sigma แปรงคาบูกิ ตัวนี้มีฝาครอบมีให้ สีชมพูน่ารักมาก ชอบตรงที่มีฝาครอบ รู้สึกว่าสะอาดดี
แต่ว่าขนแปรงจะไม่แน่นเท่า Lauress แต่ความนิ่มจะนิ่มกว่า และราคาถูกกว่า เวลาปัดแป้ง
อาจจะทำให้แป้งไม่ติดบนใบหน้าเท่า Lauress แต่ว่าตัวนี้ก็ไม่กินเครื่องสำอางค่ะ
———————————————————-
วันนี้ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับ OnnBaby’s 2011 Selected Items
หวังว่าจะชอบกัน และขอย้ำอีกครั้งว่าความคิดเห็นนี้เป็นแค่ความคิดเห็นของออนเท่านั้น
รวมถึงรูปที่ใช้ในการ Review วันนี้ ออนเป็นคนถ่ายเองทั้งหมด และทำรูปเองทั้งหมด
ไม่ได้ใช้รูปจากเว็บหรืออะไรค่ะ
หวังว่าจะชอบกัน
สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ ขอให้มีความสุขกับการพักผ่อนในวันหยุด
และเดินทางปลอดภัยทั้งไปทั้งกลับ อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ