Onnbaby's Blog
  • Home
  • About me
  • BEAUTY BIBLE ♥
  • REVIEW ♥
  • LIFESTYLE ♥
  • TUTORIAL ♥
  • DINING ♥
  • Contact Me

Onnbaby's Blog

Where Beauty, Lifestyle & Fine Dining Meet Together

  • Home
  • About me
  • BEAUTY BIBLE ♥
  • REVIEW ♥
  • LIFESTYLE ♥
  • TUTORIAL ♥
  • DINING ♥
  • Contact Me
LIFESTYLE ♥Traveling

Lifestyle : Shanghai Part 1

written by onnbaby October 13, 2011

สวัสดีค่ะ

วันนี้จะมาอัพบล็อกในหมวดของ Lifestyle นะคะ จะอัพเรื่องที่ได้ไปเรียนและไปเที่ยว Shanghai
เมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา ขอเกริ่นคร่าวๆถึงรายละเอียดนิดนึงก่อนละกัน เนื่องจากออนเรียนจุฬา
ภาคอินเตอร์ ดังนั้นเวลาเปิด-ปิดเทอม จะเหมือนต่างประเทศ ออนเลยจะปิดเทอมช่วงเดือน
พฤษภา-กรกฏา เป็นปิดเทอมใหญ่ของออน และเนื่องจากออนเรียนเอกภาษาอังกฤษ โทภาษาจีน
ที่คณะ เลยตัดสินใจจะไปที่จีน เพราะคิดว่าจะได้ฝึกภาษา ฟังสำเนียง และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ

ออนบินไปกับเพื่อนอีกคนนึงก่อน โดยที่พ่อแม่ของเพื่อนบิน flight เดียวกันไปส่งด้วย
เพื่อเช็คเรื่องที่อยู่ สถานที่เรียน รวมถึงความปลอดภัย โดยอยู่ด้วยประมาณ​ 3-4 วัน แล้วค่อย
บินกลับ ก็จะเหลือออนกับเพื่อนอีกคน ซึ่งอพาทเมนท์ที่อยู่จะอยู่ใจกลางเมือง ในฝั่ง Puxi

หลังจากที่ออนถึงประมาณ 3-4 วัน เพื่อนออนจากจุฬาที่เรียนภาษจีนด้วยกัน
อีก 2 คนก็ตามมา โดยอยู่อพาทเมนท์เดียวกันแต่คนละห้อง คนละชั้น

ช่วงที่ออนไปคือพฤษภาคม-มิถุนายน
อากาศจะไม่ร้อน ไม่หนาว เรียกว่าเป็นอากาศรวมที่ต้องเตรียมไว้ตลอด
ตั้งแต่เสื้อกันหนาว, cardigan, ผ้าพันคอ, ถุงน่อง, เสื้อผ้าหน้าร้อนธรรมดา, ขาสั้น
หรือร่มกันฝน เพราะอากาศเปลี่ยนวันละ 3-4 ครั้งเลย

ห้องอยู่ที่ตึก World Union Service Apartment บนถนน Jing An’ Si
ติดกับรถไฟใต้ดินสถานี Jing An เลย หน้าอพาทเมนท์จะมีร้านอินเตอร์เน็ต ร้านขายขนม
ร้านอาหาร ร้านชา ร้านตัดผม หรือแม้กระทั่ง 7-11 ก็มี ร้านทำเล็บก็มีเช่นกันค่ะ

ในห้องเป็นแบบ Studio นั่นเอง เป็นเตียงเดี่ยวแต่นำมาติดกัน ห้องอยู่ชั่น 13
มีกระจกเปิดออกได้ มองเห็นวิว ที่สำคัญเวลาตากผ้า ผ้าแห้งเร็วมากด้วย

ในห้องจะมีโซไฟนิ่ม พร้อมโต๊ะให้ ข้างหัวเตียงออนจะมีโต๊ะวางของให้เหมือนกัน
มีครัวและห้องน้ำในห้อง พร้อมกับอินเตอร์เน็ต โต๊ะทำงาน และทีวี น้ำอุ่นก็มีค่ะ
อาทิตย์ละ 3-4 ครั้งจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ และแม่บ้านที่นี่ดีมากๆ คือไม่ขโมย
ของเลย วาง MacBook ไว้ เสื้อผ้าอะไรในกระเป๋าเก็บให้หมด ไม่มีการรื้อค้น

ห้องน้ำที่นี่ไม่เล็กถ้าเทียบกับห้องน้ำจีน แต่เทียบกับไทยแล้วเล็กแน่นอน
แต่การตกแต่งของอพาทเมนท์นี้เน้นสำหรับรับชาวต่างชาติ ดังนั้นโอเคเลย ออนกับเพื่อน
จะวางของกันคนละด้าน

ในห้องจะมีโต๊ะให้แบบนี้ ไว้นั่งทานข้าว เล่นคอม หรือทำการบ้านกัน
ออนกับเพื่อนซื้อพวกอุปกรณ์จาน ชาม ช้อน ส้อมเข้ามาใหม่ เพราะไม่อยากไปใช้กับคนอื่น
แต่ในห้องก็มีบริการไว้ให้ เพียงแต่ดูเก่าๆ ซึ่งถือว่าเวิร์กมาก เพราะว่าราคาห้องอยู่ที่เดือน
ละประมาณ​ 35,000 บาท และออนไปกับเพื่อนอีกคน ก็หารสอง ซึ่งถือว่าถูกมาก
สำหรับห้องที่อยู่ใจกลางเมืองขนาดนี้ (อารมณ์เหมือนอยู่สุขุมวิท ทองหล่อ)
และยังใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน และสถานที่สำคัญอย่างอื่นเช่นวัด Jing An

ตอนที่ถึงแอร์พอร์ทที่เซี่ยงไฮ้ คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนออนถามว่าจะนั่งแท็กซี่เข้าไป
หรือจะต่อรถไฟ Maglev ไป และในที่สุดก็ตัดสินใจต่อรถไฟ Maglev ค่ะ ซึ่งเป็นรถไฟที่เร็วมาก
ไม่รู้ว่าติดอันดับโลกรึเปล่า แต่วิ่งความเร็วที่ 429 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ซึ่งปกติถ้านั่งรถหรือขับรถ จะใช้เวลาเกือบๆ 2 ชั่วโมง แต่นั่งรถไฟขบวนนี้ใช้เวลา 8 นาที
เท่านั้น โดยที่เวลารถไฟวิ่ง จะนิ่มมาก ไม่รู้สึกเลย นิ่มกว่ารถไฟฟ้า BTS บ้่านเรามากค่ะ

เวลานั่งมองวิวจากบนห้องจะเห็นวิวชัดเจน ยิ่งกลางคืนยิ่งสวย เพราะแสงไฟสวยมาก

การเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก เพราะว่าในเซี่ยงไฮ้มีรถไฟฟ้าใต้ดิน
ที่ค่อนข้างครอบคลุมพื้นที่ มีสายใหญ่ และสายย่อย ซึ่งแทบไม่ต้องนั่งแท็กซี่เลย
หรือสามารถขึ้นจากรถใต้ดิน แล้วมาต่อแท็กซี่ เพื่อประหยัดเงินก็ได้

รถไฟถูกมากค่ะ ไปไหนก็ตามราคา 3 หยวน หรือประมาณ​ 15 บาท
แต่ในรถไฟคนจะเบียดเสียด แออัด ยัดเยียดกันมาก ผลักกันสุดๆ เพื่อนออนตัวเล็ก
โดนเบียดกระเด็น เพื่อแย่งที่นั่ง ยิ่งถ้าตอนเย็นๆ หรือฝนตกๆ ยิ่งแย่ เพราะรถใต้ดินจะเหม็น
อับมาก เหม็นมากกก จนต้องขึ้นแท็กซี่แทน

แต่บางวันหรือส่วนมาก ออนกับเพื่อนจะขี้เกียจ เพราะบางทีก็อากาศร้อน
หรือขี้เกียจเดินบ้าง ก็จะนั่งแท็กซี่กัน แท็กซี่ที่นั่นมีหลายบริษัท แต่บริษัทที่เป็นที่นิยมที่สุด
จะเป็นคันสีฟ้าแบบ Aqua พนักงานจะรู้ทาง ไม่ค่อยพูดจาแย่ๆเท่าไหร่ ไม่โกงมิตเตอร์ด้วย
จำราคาไม่ได้ แต่ไม่ต่างจากที่ไทยเท่าไหร่


ออนกับเพื่อนลงเรียนภาษาจีนไว้เป็นคอร์ส 1 เดือน
ซึ่งที่เรียนภาษาจีนชื่อ iMandarin ตั้งอยู่ที่ตึก Shanghai Center บนถนน Nanjing
เป็นถนนย่านธุรกิจ ซึ่งเดินจากอพาทเมนท์ที่ออนอยู่ใช้เวลาประมาณ​15 นาทีค่ะ
โดยตึกนีจะเป็นตึกที่เหมือนรวมพวกบริษัทฝรั่ง และสถานทูตไว้ คนที่นี่จะพูดอังกฤษกันได้เกือบหมด
ถ้าเทียบกับคนจีนอื่นๆ ที่พูดไม่ได้เลย ดังนั้นที่นี่จะมีร้านอาหารที่เป็นนานาชาติเยอะ เช่น
Starbucks, Din Tai Fund, Hofs, Pizza Marzano, Bakeer & Space หรือแม้กระทั่งร้านทำเล็บ
ร้านตัดผม Toni & Guy, ซุปเปอร์มาร์เก็ตสำหรับฝรั่ง


ส่วนมากออนจะมาทานอาหารเช้ากับเพื่อนที่ Starbucks ข้างล่างตึกเลย
เพราะว่าขี้เกียจทำอาหารกัน แล้วก็กลัวเวลาไม่พอด้วย เลยจะรีบมาที่ตึกก่อน
เพราะว่าเรียน 9 โมงเช้า แล้วเวลาเหลือ จะได้นั่งทานอาหารสบายๆ

ที่สำคัญในตึกยังมี Ferragamo, Tom Ford และ Miu Miu ด้วย
เรียกว่ามาเรียนตึกนี้ ไม่ต้องกลัวอดตาย มีแต่ร้านอาหารเต็มไปหมด ที่สำคัญอร่อยด้วย
เพื่อนออนก็มาทำเล็บที่นี่ พนักงานพูดภาษาอังกฤษชัดเจนมาก และหน้าตึกจะมีพนักงาน
คอยเรียกรถแท็กซี่ให้ และคอยรับ-ส่ง จริงๆตึกนี้มีอพาทเมนท์ให้เช่าอยู่ด้วย
ทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว แต่ว่ามันแพงมากกก จนจะเป็นลม เดือนละเกือบ 1 แสนบาท
เลยทีเดียว แต่ว่าห้องสวยมาก เหมือนอยู่โรงแรม มีอาหารเช้าให้ มีพนักงานทำงานทุกวัน

ด้านล่างของตึกเรียน จะเป็นตึกใหญ่ โล่ง มีร้านเรียงกันเยอะๆ

หน้าตึกบริเวณที่รถจอดรับส่งจะมีน้ำตก และน้ำพุ มีลานกว้างให้นั่งสบายๆเ

เดินเลยจากตึกเรียนไปนิดนึง จะเป็นห้างใหญ่ๆประมาณ 6 ห้างติดกัน
เป็นอารมณ์เหมือนเกษรพลาซ่าบ้านเรา คือเป็นห้างที่ขายแบรนด์เนมแบบ Hi-End หมดเลย
ห้างที่ถ่ายมาคือ Plaza 66

สาวก Prada ไม่มาได้ยังไง


รถที่นี่จะไม่เยอะเท่ากรุงเทพ แต่ว่าเสียงบีบแตรที่บีบกันตลอดทุก 1 วินาที
มันน่ารำคาณกว่าในกรุงเทพเยอะค่ะ บีบกันไม่หยุดไม่ยั้งเลย แต่ดีที่ทางเดินเค้ามีต้นไม้
เวลาเดินกลับบ้าน ก็สบายๆ ไม่น่าเบื่อมาก

———————————————————————————

Daily Chinese Vocabs

Ni hao (หนี-ห่าว) = สวัสดี (คำกล่าวทักทาย)
Zai jian (จ้าย เจี้ยน) = เจอกันใหม่

Xie xie (เซี่ย เซี่ย) = ขอบคุณ
Dui bu qi (ตุ้ย ปู้ ฉิ่) = ขอโทษ (หรือใช้เวลาขอทาง แบบ Excuse me)

Taiguo (ไท่ กั๋ว) = คนไทย
Zhongguo (จง กั๋ว) = คนจีน

Ni qu nali (หนี่ ชวี่ หนา หลี่) = คุณจะไปไหน?
Wo bu zhidao (หว่อ ปู้ จือ เต้า) = ฉันไม่รู้

Wo ting bu dong (หว่อ ทิง ปู้ ต่ง) = ฉันฟังไม่เข้าใจ
Wo hen xihuan (หว่อ เหิน สี่ฮวน) = ฉันชอบมาก

Hen hao chi (เหิน ห่าว ชือ) = อร่อยมาก
Wo hen e’ (หว่อ เหิ่น เอ้อ) = ฉันหิวมาก

Hui jia (หุย เจีย) = กลับบ้าน
Wo lai Zhongguo xuexie Hanyu (หว่อ หลาย จงกั๋ว เสวสี ฮั่นหยู่)
= ฉันมาประเทศจีนเพื่อมาเรียนภาษาจีน

Wo yao qu ..  (หว่อ เย่า ชวี่) = ฉันต้องการไป …
You meiyou? (โหย่ว เหมยโหย่ว) = มีหรือไม่มี?

Pianyi yidian (เผียนอี อี้เตี่ยน) = ถูกกว่านี้นิดนึง
Hen gui (เหิ่น กุ้ย) = แพงมาก

Hen hao (เหิน ห่่าว) = ดีมาก
Ni hen piaoliang (หนี เหิ่น เพี่ยวเลี่ยง) = คุณสวยมาก
Ni hen shuai (หนี เหิ่น ช่วย) = คุณหล่อมาก

อันนี้เป็นคำที่ออนลองเอามารวบรวม และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ใน
ชีวิตประจำวันนะคะ เดี๋ยวบล็อกหน้าจะรวบรวมมาเพิ่มค่ะ ถ้าสะกดผิดต้องขอโทษด้วย
เพราะบางทีออนก็ไม่ได้แม่นตัวสะกด ให้มันอ่านถูกต้องเป๊ะๆ ขนาดนี้

อย่าลืมรออ่านบล็อกหน้านะคะ

Lifestyle : Shanghai Part 1 was last modified: December 9th, 2015 by onnbaby
Post Views: 2,636
chinalifestyleonnbabyonnbaby blogonnbaby facebookshanghaitravelingชีวิตท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้ไปเรียนไลฟ์สไตล์
0 comment
0
Facebook Twitter Google + Pinterest
onnbaby

previous post
Blog Sale : Help the flood Victims
next post
Blog Sale : Help the flood victims Part 2

You may also like

[TRAVELLING] หนาวนี้..ไป Little Italy ที่ Toscana Valley Khaoyai กันเถอะ

November 25, 2016

[REVIEW] Ultra Deep Layer ผิวหน้าโทรม ล้า เหนื่อย ไม่สดใส ต้องลองเลย

September 30, 2015

Review : The Oasis Spa สปากลางเมือง สุดหรู และสวยมาก

August 29, 2013

[SHOPPING] 5 แบรนด์เกาหลีสุดฮิตที่ต้องช็อปเมื่อถึง Duty Free

November 29, 2015

Traveling : Cape Nidhra โรงแรมส่วนตัว บรรยากาศดี พร้อม Private Pool ของตัวเอง

July 15, 2013

[DINING] MISSTAR CAFE BY DAVIKA คาเฟ่สวยๆ พร้อมอาหารอร่อยๆ

March 27, 2016

Lifestyle : Yunomori Onsen (A Square-Sukhumvit 26) Onsen แบบญี่ปุ่นแท้ๆแห่งแรกในเมืองไทย ที่มีครบทั้งแช่-ขัด-นวด

February 16, 2013

Traveling : New York Trip Day 1 (Shake Shack, Rockefeller, Times Square, Serendipity 3)

March 31, 2014

[TRAVELING] Nhapha Khaoyai รีสอร์ทกลางหุบเขาส่วนตัวมีแค่ 10 วิลล่าเท่านั้น

June 17, 2021

[LIFESTYLE] ทำสปาครั้งละหมื่นกว่าบาทกับ Clinique de La Prairie จะเริ่ด จะฟินแค่ไหน

July 9, 2021

Leave a Comment Cancel Reply

Google Adsense

banner About me

Onnbaby

Beauty Blogger,
Lifestyle Freak & Fine Dining Lover
Contact me : hello@onnbaby.com

banner About me
Facebook Instagram Youtube
banner About me
Facebook
banner About me
banner About mePrint
banner About me

Recent Posts

  • [REVIEW] อัพเดท 2023! รวมสารพัดไอเท็มจาก invisibobble ที่ต้องมี!
  • [REVIEW] เซรั่มออแกนิก ราคาหลักร้อย คุณภาพดีจาก Spain ที่อยากแนะนำ
  • [REVIEW] สครับทำความสะอาดหนังศรีษะและบำรุงเส้นผมที่ต้องมีติดบ้าน!
  • [REVIEW] แค่ 14 วันก็จึ้งมาก! มาส์กใต้ตาที่คุณแม่วัย 60 ใช้และริ้วรอยใต้ตาหายแบบไม่ต้องผ่าตัด
  • [REVIEW] Carne ร้านอาหารสเปนใจกลางสุขุมวิทกับเซ็ตโปรโมชั่นสุดคุ้ม อร่อยเกินคาด

https://www.youtube.com/watch?v=UPUK1_uf0eI

https://www.youtube.com/watch?v=UPUK1_uf0eI

https://www.youtube.com/watch?v=zgZnd9fSf78&t=25s

https://www.youtube.com/watch?v=zgZnd9fSf78

https://www.youtube.com/watch?v=Lqj5CRkQ8S8&t=4s

https://www.youtube.com/watch?v=Lqj5CRkQ8S8
  • Facebook
  • Twitter
  • Instagram
  • Youtube
Footer Logo

@ 2016 - Onnbaby. All Right Reserved.