สวัสดีค่ะ
กลับมาอีกแล้ว ช่วงนี้ยังว่าง เลยรีบ Review กันก่อนเลย
ก็วันนี้จะมา Review โคลนมาส์กหน้า หรือ Clay Mask นั่นเอง เพราะยังไม่ค่อยเห็น
มีคนพูดถึงโคลนมาส์กหน้ากันเท่าไหร่ ส่วนมากจะเป็น Mask sheet, Yogurt Mask
หรืออะไรมากกว่า
ซึ่งอยากจะบอกว่าออนเริ่มมาส์กหน้าด้วยโคลนมานานแล้ว น่าจะประมาณ 2-3 ปีได้
ตั้งแต่ช่วงที่อยู่ออสเตรเลีย แต่จริงๆคนที่ทำให้ออนกล้ามาส์กหน้าด้วยโคลนก็คือคุณแม่นั่นเอง
เพราะตอนเด็กๆเวลานอนดูทีวีกัน จะเห็นคุณแม่มาส์กหน้าด้วยโคลนสีเทาๆ ซึ่งพอแห้งแล้ว
จะกลายเป็นสีเขียวๆตลอด คุณแม่บอกว่าเป็นโคลนจะภูเขาไฟอะไรประมาณนี้ ตอนนั้นเด็กมาก
จำไม่ค่อยได้ แต่ตอนโตก็พึ่งมารู้ว่ามันคือของยี่ห้อ Borghese นั่นเอง ยี่ห้อนี้จะขายแต่พวก
สกินแคร์ ซึ่งที่ไทยไม่มีขาย แต่ที่เซี่ยงไฮ้และประเทศอื่นๆ หรือตามเว็บเครื่องสำอางค์ออนไลน์
ต่างประเทศจะมี โคลนเค้าดีทีเดียวเลย
แต่มาเข้าเรื่องกันดีกว่า เพราะยี่ห้อที่จะ Review ไม่ใช่ Borghese แต่เป็น Lanopearl
และ Innisfree ออนเลือกสองยี่ห้อนี้มา เพราะคิดว่าน่าจะเข้ากับกลุ่มคนได้กลุ่มใหญ่
เพราะ Lanopearl เป็นยี่ห้อที่เน้นขายเกี่ยวกับรกแกะของ Australia และ Innisfree
ก็เป็นแบรนด์ของเกาหลี ดังนั้นใครชอบแนวไหน ก็น่าจะได้ตัวเลือกที่ถูกใจกันบ้าง
ด้านซ้าย – Innisfree Jeju Volcanic Pore Clay Mask
ด้านขวา – Lanopearl Aromatic Facial Mask
มาพูดถึงโคลนมาส์กกันคร่าวๆก่อนดีกว่า บางคนไม่รู้ว่าช่วยอะไร ดียังไง เหม็นมั้ย สกปรกรึเปล่า
จะบอกว่าโคลนมาส์ก ก็เหมือนมาส์กที่เราใช้ทั่วๆไปค่ะ มีกลิ่นต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเค้าเลือก
กลิ่นแบบไหนใส่แต่ไม่เหม็นแน่นอน โคลนมาส์กมีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน
ทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างดี ซึ่งถ้าลองสังเกตุดีๆตามโคลนมาส์กทั่วๆไป
มักจะมีคำว่า ” Purifying ” เขียนอยู่เสมอๆ
ซึ่งคำว่า Purify หรือ Purifying มีความหมายว่า บริสุทธิ์หรือการชำระล้าง
ซึ่งส่วนมากจะเห็นคำว่า Purifying your skin ก็เท่ากับการชำระล้างผิวของเราให้สะอาดบริสุทธิ์นั่นเอง
ซึ่งทุกๆครั้งที่ออนมาส์กหน้าด้วยโคลนเนี่ย หลังล้างหน้าออกมา จะรู้สึกได้เลยว่าผิวมันสะอาดมากขึ้น
ดูเหมือนได้รับการอาบน้ำมาอย่างดี ที่สำคัญหน้าจะนิ่มขึ้น แต่บางคนอาจจะมองว่าก็เพราะ
พึ่งล้างหน้ามา ผิวถึงเป็นแบบนี้ แต่อยากจะบอกว่าถ้าเรามาส์กสม่ำเสมอ และดูผลผิวควบ
คู่กับปัจจัยอื่นๆเช่น การทาครีมบำรุง การทาครีมกันแดด การมาส์กหน้าเพิ่มความชุ่มชื้น
การดื่มน้ำ และทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำไปเรื่อยๆ รับรองว่าเห็นผลแน่นอน ว่าผิวจะใสขึ้นจริงๆ
( แต่ตรงข้อทานอาหารให้มีประโยชน์ ออนก็ทำไม่ได้ซะที T^T )
วิธีใช้ : ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าหรืออะไรก็แล้วแต่ให้สะอาด ใช้มือสะอาดๆค่อยๆ
เกลี่ยมาส์กโคลนให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้จนแห้ง โดยระหว่างที่มาส์กหน้าอยู่ ไม่ควรพูด หัวเราะ
หรือขยับหน้า เพราะอาจจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ หลังจากแห้งแล้ว ก็ล้างออกด้วยน้ำปกติ
แล้วก็ตามด้วยขั้นตอนการบำรุงผิวพวกโทนเนอร์ ม๊อยเจอร์ไรเซอร์ได้เลย
มาเริ่มที่ Innisfree กันก่อนดีกว่า แบรนด์เครื่องสำอางค์จากเกาหลีนั่นเอง
มาส์กโคลนอันนี้เขียนว่า Jeju Volcanic Pore Clay Mask มาส์กโคลนจะแร่ภูเขาไฟเจจูนั่นเอง
ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน แต่หลังจากลองใช้แล้วมันก็มาส์กโคลนเหมือนกัน ใช้แล้วหน้ารู้สึก
สะอาดเหมือนกัน ออนลองใช้แบบเทสเตอร์หลายๆซองก่อน เพราะใช้แบบเทสเตอร์ราคาค่อนข้างถูก
ซองละไม่ถึง 20 บาท ใช้ได้ซองละ 2 ครั้ง ซึ่งคิดว่าเดี๋ยวได้ซื้อขนาดจริงแน่นอน
เพราะใช้แล้วหน้านิ่มมาก รู้สึกสะอาดขึ้นมาก
สีของมาส์กเป็นแบบนี้ค่ะ ขาวๆขุ่นๆ เหมือนดินสีขาว คือไม่ได้เป็นสีเทาๆเขียวๆเหมือนยี่ห้ออื่น
ดังนั้นใครชอบมาส์กอะไรที่ดูสะอาด น่าจะชอบยี่ห้อนี้ กลิ่นไม่เหม็น และไม่หอม คือปกติ ไม่ได้มีปัญหา
อะไรเวลามาส์ก ออนจะทาให้หนาประมาณนี้ค่ะ ไม่หนาหรือบางไปกว่านี้ ใช้เวลาให้แห้งประมาณ 10-15 นาที
ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้องด้วย อย่างถ้าห้องแอร์ก็ไม่เกินไปกว่านี้ค่ะ
แบรนด์นี้ไซส์จริงจากพวกร้านรับหิ้วอยู่ที่ 450-500 บาท รู้สึกว่าจะยังไม่มีขายในไทยนะคะ
ดังนั้นอาจจะซื้อยากนิดนึง เพราะต้องสั่งจากเว็บเอา ใครสนใจก็ Google ได้เลยค่ะ
ของดตอบคำถามเกี่ยวกับเว็บสั่งนะคะ เพราะผิดกฏ
ตามมาด้วย Lanopearl Aromatic Facial Mask ขนาด 150 ml.
ต้องสั่งจากในเน็ต หรือซื้อจากร้าน Life Spring ติดกับเจ้เล้ง ดอนเมืองนั่นเอง
อยู่ที่ 450-550 บาทต่อขวด แต่อันนี้พี่ที่รู้จักออนซื้อมาให้จากออสเตรเลียตอนเค้ากลับมา
มาส์กยี่ห้อนี้เป็นพวกยี่ห้อที่ขายรกแกะจากประเทศ Australia คนไทยและคนเอเซีย
ขอบไปซื้อมากๆ ทั้งๆที่ฝรั่งไม่เคยรู้จัก ยิ่งพอไปบอกเค้าว่ามาจาก Sheep Placenta
ฝรั่งถึงกับอี๋และอึ้งไปเลยทีเดียว
แต่มาส์กตัวนี้ไม่ได้ทำจากรกแกะนะคะ เป็นดินขาวจากธรรมชาติ
ผสมกับพวกแปะก๊วย, witch hazelnut extract แล้วก็อื่นๆอีก อันนี้หาข้อมูลมา
ให้จากในเว็บ ซึ่งตัวนี้เป็นมาส์กโคลนยี่ห้อแรกเลยที่ใช้ตั้งแต่ 3 ปีก่อน หลอดนึงใช้ได้
นานมากกก มากกกทีเดียว เพราะออนใช้มาเป็นหลอดที่ 3 แล้ว
เนื้อโคลนจะสีเดียวกันกับ Innisfree เลย แต่เนื้อจะหยาบกว่าเล็กน้อย
แต่เวลามาส์กเสร็จแล้ว ก็ให้ผลออกมาเหมือนกันค่ะ คือผิวหน้าสะอาดขึ้น นุ่มเขียน
เหมือนได้อาบน้ำมานั่นเอง เวลาแห้งอะไรก็เท่ากันค่ะ
แปะรุปจากเมืองจีน ว่าตอนอยู่จีนออนมาส์กหน้าทั้งแบบโยเกิร์ตและโคลนมาส์กเลย
เพราะว่าอากาศที่นั่นค่อนข้างสกปรก ฝุ่นเยอะ แล้วหน้าออนแพ้ฝุ่นง่ายมากๆ เวลาเจอฝุ่น
แล้วจะขึ้นสิวผดทันที เลยต้องเอาตัวนี้ไปเป็นตัวช่วย SOS กู้ภัยนั่นเอง ออนมาส์ก
สม่ำเสมอตั้งแต่ก่อนไปและตอนไป คือทุกอาทิตย์ออนมาส์กหน้าและสครับหน้าค่ะ
แนะนำว่าอยากให้ทำสม่ำเสมอ และพอเวลาผ่านไป เราจะเห็นเลยว่าสิ่งที่เราทำ
มาตลอด 3-5 เดือนเนี่ย มันเห็นผลจริงๆ เพราะถ้าช่วงไหนที่เรา
ละเลยการดูแลตัวเอง เราจะรู้ทันทีค่ะ