[REVIEW] Thermage CPT เลเซอร์ปรับรูปหน้าแบบไม่พึ่งเข็ม สำหรับคนกลัวเข็ม

written by onnbaby May 11, 2015

สวัสดีค่าสาวๆ

เมื่อประมาณ 2-3 อาทิตย์ก่อน ออนได้มีโอกาสไปทำเลเซอร์ปรับรูปหน้า
กับ The Klinique ซึ่งเลเซอร์ปรับรูปหน้าที่พูดถึงก็คือโปรแกรม “Thermage CPT” นั่นเอง
หลายๆคนอาจจะคุ้นหูกับ Thermage มาบ้าง บางคนอาจจะเคยลองมาแล้ว
แต่สำหรับออน..นี่เป็นครั้งแรกที่ทำโปรแกรมนี้ แต่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ออน
มาทำที่ The Klinique นะคะ เคยมาทำเมื่อ 2-3 ปีก่อนได้แล้วค่ะ และวันนี้
ก็ดีใจที่ได้กลับมาอีก

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า Thermage CPT คืออะไร?..
Thermage CPT คือคือเทคโนโลยีความร้อนสูง ซึ่งใช้ความถี่คลื่นวิทยุ
เพื่อสร้างความร้อนให้แก่ผิวหนัง ความร้อนจะทำให้เส้นใยคอลลาเจนที่
คลายตัวและยืดออกไปตามอายุนั้นกระชับตัว ขึ้น และความร้อนยังกระตุ้นการ
สร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผิวของคุณหนาขึ้นและเรียบเนียน
ขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

ซึ่งการรักษาด้วย Thermage CPT เป็นการรักษาที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัดซึ่งช่วย
ให้ผิวพรรณเนียนเรียบ กระชับ และเข้ารูป ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของร่างกาย
เพื่อรูปร่างที่ดูอ่อนวัยเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัด หรือฉีดยา และพักฟื้น
เล็กน้อยถึงไม่ต้องผ่าตัดเลย นอกจากนี้การรักษาด้วย Thermage CPT
หลากหลายรูปแบบถูกพัฒนาขึ้น เพื่อรักษา ใบหน้า ดวงตา หน้าท้อง และส่วนอื่นๆ
ของร่างกายที่มีผิวไม่กระชับและหย่อนคล้อยค่ะ

มาพูดถึงขั้นตอนกันค่ะ ..

ขั้นตอนการรักษาจะใช้ระบบ ThermageCool ซึ่งผ่านการรับรองจากองค์การ
อาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาแล้ว หัวส่งคลื่นความถี่ที่อยู่บนด้ามส่งคลื่น
ความถี่จะวางทาบลงบนผิวหนังเบาๆ เพื่อส่งจังหวะพลังงานความถี่คลื่นวิทยุ (RF)
ซึ่งแต่ละจังหวะจะยาวประมาณ 1 วินาที โดยหัวส่งคลื่นความถี่นี้จะให้ความเย็นและ
ป้องกันชั้นหนังกำพร้าไว้ ระหว่างที่พลังงานทะลุผ่านเข้าสู่ผิวหนัง
เพื่อสร้างความร้อนให้กับเส้นใยคอลลาเจนที่อยู่ในชั้นหนังแท้
และเนื้อเยื่อชั้นไขมันใต้ผิวหนัง

ก่อนเริ่มทำทางเจ้าหน้าที่จะโปะยาชาให้ก่อนทั่วหน้า โดยใช้ระยะเวลาอยู่ที่
40 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ เวลาทำจะได้เจ็บน้อยค่ะ หลังจากนั้นก็
จะทำการเช็ดยาชาออก และคุณหมอก็จะเข้ามาดูรูปหน้าเรา ว่ามีปัญหาอะไร
ต้องแก้ตรงไหน และจะใช้เมจิกเขียนเป็นเส้นไปตามหน้า เพื่อระบุบริเวณ
ที่จะทำ Thermage CPT ค่ะ

สำหรับออน.. ออนมีปัญหาแก้มสองข้างไม่เท่ากัน โดยที่แก้มซ้ายจะใหญ่
กว่าด้านขวา ทำให้หันหน้าถ่ายรูปได้มุมเดียว นอกจากนี้ยังมีเหนียงที่
เกิดขึ้นจากความอ้วน (เวลาอ้วนแล้วออนจะออกหน้าเป็นส่วนแรก)

เสร็จแล้วทางเจ้าหน้าที่จะทาเจลเย็นให้ทั่วหน้าอีกครั้ง ในกรณีนี้
ถ้าหากใครกลัวเจ็บ สามารถขอให้ทางคุณหมอฉีดยาชาเพิ่มได้ แต่
ออนเลือกแบบไม่ฉีดค่ะ (เพราะไม่ค่อยชอบเวลาโดนฉีดยาชา) ซึ่ง
พอโปะเจลเย็นแล้ว คุณหมอก็จะใช้เครื่องแนบไปตรงบริเวณที่ต้องการทำ
เครื่องจะสั่นเล็กน้อย และมีความรู้สึกอุ่นๆร้อนๆออกมาบนผิวหน้า

ซึ่งความร้อนสามารถปรับได้หลายระดับ ถ้ารู้สึกว่าร้อนเกินไป..
สามารถแจ้งคุณหมอได้ เพื่อให้ลดระดับความร้อนลง สำหรับออนเป็นคน
ไม่ค่อยชอบความร้อนเท่าไหร่ เลยขอความร้อนระดับเบาๆพอ
ซึ่งระหว่างการทำเจ้าหน้าที่จะคอยมาเติมเจลเย็นบนหน้าให้ตลอด
เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคืองจากความร้อนค่ะ

วันนั้นออนทำไปทั้งหมด 500 shot โดยทำบริเวณแก้ม โหนกแก้ม
และคาง เพื่อให้เกิดการยกกระชับขึ้นมา เหตุผลหลักๆที่ออนตัดสินใจมา
ลองโปรแกรมนี้ เพราะออนต้องการลองอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะการ
ยกกระชับหน้าให้เรียวขึ้น ได้รูปมากขึ้น “โดยไม่ต้องพึ่งเข็ม” เพื่อเป็น
ทางเลือกสำหรับสาวๆที่ไม่ชอบเข็ม ไม่ชอบฉีด และนำมาเขียน Review
ให้อ่านกันค่ะ

ซึ่งหลังจากที่ออนทำไปแล้ว ออนรู้สึกว่ากรอบหน้าชัดขึ้น หน้าดู
มีรูป มีโครงมากขึ้น (ทั้งนี้ทั้งนั้นออนต้องดูแลในเรื่องของการทาน
อาหาร การเคี้ยวต่างๆควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธุ์ที่ชัดเจน
และอยู่นาน) ที่สำคัญทำเสร็จแล้วไม่ต้องพักฟื้น สามารถแต่งหน้า
ออกไปทำงาน ทำธุระได้ต่อเลยค่ะ มีแค่อาการแดงเล็กๆเท่านั้น

วันนี้ออนจะมาแปะ FAQ ให้สาวๆอ่านกันด้วย เผื่อบางคนอาจจะ
สงสัย มีคำถาม ซึ่งออนได้นำข้อมูลมาจากทางเว็บ The Klinique ค่ะ

– ต้องรักษากี่ครั้ง จึงจะเห็นผล?

การรักษาด้วย Thermage CPT ส่วนใหญ่รักษาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
หรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและความคาดหวัง
ของผู้รับการ รักษาด้วย ซึ่งต่างจากการรักษาด้วยเลเซอร์ที่
ต้องใช้เวลาในการรักษาอย่างน้อย 4 ครั้งหรือมากกว่า

– อยู่ได้นานแค่ไหน?

การรักษา Thermage CPTที่ผิวหน้าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการ
สร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง ถึงเดือนที่ 6 หลังการรักษา
ผลการรักษาอาจอยู่ได้นานเป็นปีขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิวและอายุ
ของแต่ละบุคคล ภาพถ่ายที่แสดงทั้งหมดนี้ไม่ได้ผ่านการปรับแต่งใดๆ
ทั้งสิ้น โดยภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นผลลัพธ์จากการรักษาที่ชัดเจน
ซึ่งผลลัพธ์จากการรักษาอาจแตกต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุ
และสภาพผิวของ แต่ละบุคคล