สวัสดีค่ะสาๆทุกคน
วัน Valentine’s Day หรือวันแห่งความรักก็ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วนะคะ
ซึ่งปีนี้ออนก็ได้ไปทานอาหารมาที่ร้านนึง ซึ่งอยากไปมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าอยู่
ตรงไหน เพราะร้านนี้พึ่งเปิดได้ไม่กี่เดือนก่อน และเห็นมีเพื่อนๆหลายคนไปเยอะ
โชคดีมากที่คุณแฟนเซอไพรส์ พามาทานที่นี่พอดี ซึ่งร้านนี้ก็คือ “Signor Sassi” ค่ะ
Signor Sassi เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดังจากอังกฤษ และตอนนี้ได้ไปมา
เปิดสาขาที่ประเทศไทยแล้ว บวกกับออนเป็นคนชอบทานอาหารอิตาเลี่ยนมาก เลย
ไม่พลาดที่จะอยากมาทานอาหารที่นี่
Signor Sassi
ตั้งอยู่ที่ โรงแรมอนันตรา (สาธร-นราธิวาส) บนชั้น 37
มีทั้งในส่วน Outdoor และ Indoor
Avocado Bernado (490 บาท)
เป็น Appetizer จากแรกที่สั่ง ปกติออนไม่ชอบทานผัก แต่ชอบทาน Avocado
มันอร่อยดี รสชาติไม่แรงด้วย จานนี้เป็น Avocado ที่มาพร้อมกับกุ้ง Lobster ข้างใน
และราดด้วย Cocktail Sauce
กุ้ง Lobster ที่นี่สด และ Avocado ที่มาพร้อม Cocktail Sauce ทำให้ไม่เลี่ยน
ไม่จืดจนเกินไป รสชาติกำลังดี เป็น Appetizer ที่เบาๆ ไม่หนักมาก รองท้องได้ดี
สำหรับเตรียมท้องไว้สำหรับ Main Course ค่ะ
Mozzarella in Corrozza (240 บาท)
จานต่อมาเป็น Mozzarella Cheese ทอดกับขนมปัง ในนี้จะผสมกระเทียมด้วย
แต่น้อยมาก ไม่รู้สึกรสเลย เพราะออนเป็นคนทานกระเทียมไม่ได้ แต่ทานอันนี้แล้ว
ไม่รู้เรื่อง ถือว่าโอเคเลย ส่วน Sauce จะเป็น Anchovy Sauce ค่ะ
จานนี้เอาใจ Cheese Lover ไปเลยทีเดียว ตัดออกมาแล้วชีสเยิ้มมม ย้อยย ย้วยยย
แบบนี้ค่ะ ส่วน Anchovy ซอสทำให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป โดยรวมแล้วอร่อยเลย กินกันคนละลูก
แอบอิ่มอยู่เหมือนกัน เพราะว่ามันเป็นแป้ง ชีสเยิ้มจริง คนรักชีสห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ
สำหรับมื้อค่ำนี้ ออนเลือก Prosecco ค่ะ เป็นอะไรที่ทานง่าย เบาๆ สบายๆ
ที่สุดแล้ว เพราะออนไม่ใช่คนชอบทานไวน์ หรือพวก Sparkling Wine มากนัก
ทานแล้วง่วง หลับง่ายมาก ดังนั้น Prosecco แก้วเดียวสำหรับออน กำลังพอดีค่ะ
Pollo Lucullo (520 บาท)
จานนี้ของคุณแฟนเป็นอกไก่ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับผักโขม และ Garlic Butter ทอด
พร้อมกับ Garlic Sauce ใครที่ชอบกระเทียม น่าจะชอบจานนี้เลย จานนี้ออนไม่ได้ทานค่ะ
แต่คุณแฟนบอกว่าก็โอเค เนื้อไม่ได้นุ่มมาก แต่ก็ไม่ได้แข็ง โดยรวมเฉยๆ ค่ะ
ถ่ายกับอาหารซะหน่อย
Medaglione di Manzo con Fegato D’oca (980 บาท)
จานนี้สำหรับออนคือสุดยอดดดด แบบคำเดียวสั้นๆง่ายๆว่า “ฟิน” ค่ะ
จานนี้เหมาะสำหรับคนรักการทาน “เนื้อ และ ตับห่าน” และนี่คือสองสิ่งที่ออนชอบ
ทานมา และสองสิ่งนี้มารวมอยู่ด้วยกัน โอ้โห ………… สวรรค์
จานนี้เป็น Fillet of Beef โดยความสุกเลือกระดับเป็น Medium Rare และ
เสิร์ฟมาพร้อมกับ Foie Gras หรือตับห่าน จานนี้มันเริ่ดมากกก มาที 2 ชิ้นเลย
ทั้งเนื้อ ทั้ง Foie Gras เนื้อนุ่มใช้ได้ ถึงจะไม่ได้นิ่มละลายเลย แต่ไม่เหนียว
โอเคมาก ชอบมาก
มาดูเนื้อกัน มัน Juicy มาก ไม่แห่งเลย และที่สำคัญ Foie Gras ก็ชิ้นใหญ่เกือบ
เท่าๆกับก้อน Steak เลย ไปครั้งหน้าก็จะสั่งเมนูนี้อีกแน่นอน
และสำหรับสเต็ก จะมี Side Dish ให้เลือกเป็น มันบด, มันอบ,
มันทอด และถ้าจำไม่ผิดจะเป็นสลัด ออนเลือกมันบดค่ะ ของโปรดอีก
เนื้อมันบดนุ่มมาก ละเอียดมาก ละลายในลิ้น ที่สำคัญโปะเห็ด Truffle มาให้
ด้วย ก็จะได้กลิ่นหอมของเห็ด Truffle เวลากินด้วยตลอด เลิฟมากกกก
ทานคาวแล้ว ก็ต้องทานหวาน นิสัย(ที่ทำให้อ้วนตัวกลมของออน)ที่เปลี่ยนไม่ได้
วันนั้น จะมีเป็น Special Menu คือ “ไอศกรีมกลิ่นกุหลาบ” ที่เสิร์ฟมาพร้อมกลีบกุหลาบ
แต่สำหรับออน ออนไม่ค่อยชอบกลิ่นกุหลาบ หรือรสพวกดอกไม้เท่าไหร่ เลยสั่งเป็น
ไอศกรีมชาไทยแทน รสชาติโอเค หวานๆ คล้ายๆกับไอศกรีมชาเย็นที่ตลาด Night Bazaar
หัวหิน (ไอติมชาเย็นเจ้นิ) เลยแต่อันนี้จะเข้มข้นกว่า และช็อกโกแลตที่ราดมาให้ก็อร่อย
ทานเสร็จแล้ว ก็ออกไปถ่ายรูปกันข้างนอกค่ะ ตอนแรกคุณแฟนจะจองข้างนอกให้
แต่ว่าเต็มหมดแล้ว ขนาดโทรจองล่วงหน้า 2 อาทิตย์ก่อนวันวาเลนไทน์ เลยได้โต๊ะข้างใน
แต่ก็เป็นโต๊ะริมกระจก ยังเห็นวิวสวยๆค่ะ ร้านนี้อยู่บนชั้น 37 เห็นวิวโอเค ไม่ได้สวยมาก
เหมือน Sirocco หรือ Vertigo แต่ราคาสบายกระเป๋ากว่ากันเยอะ
วันนี้ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับ Review ร้านอาหารที่ออนได้ไปทานมาในวันวาเลนไทน์
หวังว่าจะเป็นไอเดียสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารอิตาเลี่ยนอร่อยๆ วิวดีๆ บนตึกสูง
กัน แล้วกลับมาเจอกันใหม่นะคะ
ขอบคุณค่า